นายธนพร เตชวิวรรธน์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) ยอมรับว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 จะหดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/65 ตามทิศทางการใช้เม็ดเงินโฆษณาลดลง แต่จะยังสามารถเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของ บมจ.อควา คอร์ปอเรชั่น (AQUA) เข้ามา ขณะที่ปี 65 เริ่มรับรู้ในช่วงเดือน เม.ย.65 ซึ่งเป็นช่วงไตรมาส 2/65 รวมถึงยังมีปัจจัยบวกจากสื่อโฆษณานอกบ้าน (Out of Home) ที่เติบโต และรับรู้ธุรกิจ Sport Marketing เพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับอัตราการใช้สื่อโฆษณา (Utilization Rate) ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.66 อยู่ที่ราว 55-56% เป็นไปตามเม็ดเงินโฆษณาในภาพรวมปรับตัวลดลงเล็กน้อยราว 8-9% หลักๆ มาจากการลดลงของสื่อทีวี ขณะที่สื่อโฆษณานอกบ้าน (Out of Home) อย่างสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ (transit) ยังมีการเติบโตกว่า 20% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น และมีการเปิดประเทศอย่างเต็มตัว ส่งผลให้การใช้เม็ดเงินสื่อโฆษณานอกบ้านกลับมาคีกคักอีกครั้ง
ขณะที่ประเมินว่าในเดือน มี.ค.66 น่าจะมีเม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้อัตราการใช้สื่อโฆษณาเฉลี่ยทั้งไตรมาส 1/66 จะอยู่ที่ 60%
ส่วนทั้งปี 66 ประเมินอัตราการใช้สื่อโฆษณาน่าจะอยู่ที่ 60-65% แต่หากภาพรวมเศรษฐกิจมีการปรับตัวดีขึ้น ก็มีแนวโน้มที่อัตราการใช้สื่อโฆษณาจะสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ได้
นายธนพร กล่าวอีกว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตแตะ 7,200-7,500 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 6,590 ล้านบาท สัดส่วนหลัก 75% มาจากรายได้ธุรกิจสื่อ OOH ประมาณ 5,500-5,800 ล้านบาท คาดว่าจะมีความสามารถในการผลิตสื่อโฆษณา (Media capacity) อยู่ที่ประมาณ 8,950 ล้านบาท จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 8,600 ล้านบาท
และอีก 25% จะมาจากธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม (Engagement marketing) ประกอบด้วยรายได้จากกีฬาฟุตบอล 200 ล้านบาท, กีฬามวย 400 ล้านบาท, สิทธิการถ่ายทอดสดกีฬาเอเชียนเกมส์ หางโจว 250 ล้านบาท การโปรโมทกีฬาเอเชียนเกมส์ หางโจว 400 ล้านบาท และธุรกิจบริหารศิลปิน 450 ล้านบาท เป็นต้น
ด้าน EBITDA คาดว่าในปีนี้จะเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง จากการมุ่งเน้นที่ความสามารถในการทำกำไร โดยยังคงความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ที่ระดับเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 25-30% และ 10% ตามลำดับ
สำหรับเงินลงทุนในปีนี้บริษัทวางงบไว้ที่ 800-1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการปรับปรุงประสิทธิภาพจอสื่อที่มีอายุการใช้งานครบกำหนด ประมาณ 500-700 ล้านบาท และเพิ่มความสามารถในการผลิตจากการเติบโตภายใน อีกราว 300-400 ล้านบาท