ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้จัดตั้งโครงการ Bank Term Funding Program (BTFP) โดยจัดสรรเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8.6 แสนล้านบาท เพื่อหนุนธนาคาร สมาคมออมทรัพย์ สหภาพเครดิต และสถาบันรับฝากเงินอื่น ๆ ที่มีหลักประกันทางสินทรัพย์ที่มั่นคง โดยสถาบันการเงินเหล่านี้สามารถนำพันธบัตรรัฐบาล หลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีมูลค่ามาใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้
โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เข้าเกณฑ์จะมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับผู้ฝากเงินทุกคนในช่วงเวลาที่เกิดความวุ่นวาย ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นการเพิ่มสภาพคล่องแก่ธนาคารที่กำลังประสบปัญหา และเป็นการป้องกัน Bank Run อีกช่องทางหนึ่ง
การจัดตั้งโครงการนี้ พอเราดู Timeline จะพบว่าเกิดขึ้นหลังจากธนาคาร Silicon Valley Bank หรือ SVB ธนาคารอันดับที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศขายสินทรัพย์และเพิ่มทุนจำนวนมากเพื่อหาเงินทุนเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้ฝากเงินตื่นตระหนก แล้วก็แห่กันถอนเงินออก แถมยังกระตุ้นให้ถอนเงินจากธนาคารอื่น ๆ เช่นเดียวกัน
มาดูผลกระทบต่ออุตสาหกรรม Crypto เนื่องจาก Circle ผู้ออกเหรียญ Stable Coin อย่าง USDC เขาได้เปิดเผยว่ามีเงินจำนวน 3,300 พันล้านดอลลาร์ในธนาคาร SVB ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในอุตสาหกรรม Crypto มากขึ้น และส่งผลให้ Stablecoin USDC หลุด Pegged กับเงินดอลลาร์สหรัฐด้วย ต้องบอกว่าการที่ Stable Coin หลุด Pegged นี่น่กลัวมาก ทุกคนยังจำเหตุการณ์ที่เหรียญ UST หลุด Pegged ได้ใช่ไหม
กลับมาดู โครงการ Bank Term Funding Program ก่อนหน้านี้ที่ SVB เจอกับปัญหาด้านสภาพคล่อง ทางเฟดต้องรีบเข้ามาอุ้มเพราะเวลาแบงก์ล้มที มันจะกระทบอุตสาหกรรมการเงินเป็นวงกว้าง
แถมโครงการใหม่นี้มีขึ้นในวันเดียวกับที่ Fed ประกาศว่านาง Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ อนุมัติการดำเนินการของ Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) เพื่อให้ผู้ฝากเงินของธนาคาร SVB มั่นใจในการรับประกันเงินฝากเต็มจำนวน
แน่นอนว่าวิกฤตของ SVB ได้จุดประกายให้คนนำเงินมาใส่ในตลาดคริปโทฯ มากขึ้น และถ้าเราดูจากข้อมูล on chain จะพบว่าตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าตลาดคริปโทฯ แล้วกว่า 120,000 ล้านดอลลาร์ เพราะ Cryptocurrency อย่างบิทคอยน์ มีลักษณะสำคัญที่แตกต่างจากเงิน นั่นก็คือ บิทคอยน์ไม่สามารถควบคุม หรือถูกอายัดได้ มีมูลค่าในตัวเองคล้ายกับทองคำ เห็นอย่างนี้แล้วอยากซื้อบิทคอยน์เพิ่มหรือเปล่า
*BNB พุ่งอย่างแรง หลัง CZ ประกาศเอาเงินกองทุน BUSD มาแปลงเป็น คริปโทฯ
หากเราดูกราฟราคาของคู่เหรียญ BNB-USDT จาก TradingView จะพบว่า ราคาเหรียญ BNB นั้นได้พุ่งไปทะลุ 300 ดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย และเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นพร้อม ๆ การฟื้นตัวของราคา Bitcoin ที่พุ่งแตะ 22,600 ดอลลาร์
ด้าน CZ CEO ของ Binance ได้ประกาศจะนำเงินจากกองทุนที่ฟื้นฟูอุตสาหกรรมคริปโทฯ ในเหรียญ BUSD มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ มาแปลงเหรียญ BTC-BNB-ETH งานนี้ถ้ามองอีกมุมก็อาจดูเหมือนการปั่นราคาเหรียญ
*Meta เตรียม Lay off พนักงาน จบแล้วกับ NFT
ล่าสุดทาง Meta ได้เตรียม Lay Off พนักงานกว่า 10,000 ในปี 2023 และได้ประกาศใน Facebook โดยในเนื้อหา Mark Zuckerberg ระบุว่าเป้าหมายหลักของ Meta คือการเพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยีและปรับปรุงประสิทธิภาพทางการเงิน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่รุนแรงในประเทศ การดำเนินการเหล่านี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัท
อีกทั้ง ยังได้อธิบายเพิ่มเติมว่าบริษัทจำเป็นต้องเสริมประสิทธิภาพการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย นอกจากนี้ยังคงต้องกำจัดกระบวนการและหน้าที่ที่ไม่จำเป็นออกไปทันที
"ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้นำองค์กรของเราจะเปิดเผยแผนการปรับโครงสร้างมีเป้าหมายเพื่อทำให้องค์กรของเราเรียบง่ายที่สุด ทั้งนี้จำเป็นต้องยกเลิกโครงการที่มีลำดับความสำคัญต่ำกว่าและลดอัตราการสรรหาบุคลากรของเรา จากการลดการจ้างงานนี้ เราได้ตัดสินใจอย่างยากลำบากที่จะลดขนาดทีมของเราลงอีก"
ทางด้าน Stephane Kasriel หัวหน้าฝ่ายการค้าและเทคโนโลยีการเงินของ Meta กล่าวเสริมว่าบริษัทกำลังหยุดสนับสนุน Digital Collectibles (NFT) ในตอนนี้ และจะมุ่งเน้นไปที่วิธีอื่น ๆ ในการสนับสนุนครีเอเตอร์, ผู้คน, และธุรกิจ และกำลังจะเปลี่ยนเป้าหมายไปโฟกัสที่ AI ซึ่งเป็นจุดสนใจใหม่ในปัจจุบัน และวาง Metaverse ไว้ในแผนระยะยาว
https://youtu.be/u7rKQLc42qw