SET ปิดวันนี้ที่ 1,555.45 จุด ลดลง 8.22 จุด (-0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 62,843.04 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดเอเชีย และตลาดหุ้นยุโรปเปิดมาปรับตัวลง กังวลฐานะการเงินแบงก์ทั่วโลกกดดันราคาหุ้นร่วง โดยเฉพาะประเด็นการรับผลขาดทุนจากการถือตราสารหนี้ พรุ่งนี้คาดตลาดยังผันผวน แต่มองเป็นภาพระยะสั้น คาดประชุมเฟดสัปดาห์นี้น่าจะตอบรับผลเชิงบวก รวมทั้งความเสี่ยงต่างๆและปัญหาของแบงก์น่าจะเอาอยู่ ให้แนวรับ 1,540 จุด แนวต้าน 1,565-1,570 จุด
SET ปิดวันนี้ที่ 1,555.45 จุด ลดลง 8.22 จุด (-0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 62,843.04 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับลง โดยดัชนีทำจุดสูงสุดของวันที่ 1,569.76 จุด ทำจุดต่ำสุดที่ 1,543.47 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 482 หลักทรัพย์ ลดลง 1,148 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 387 หลักทรัพย์
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชียหลังจากตลาดหุ้นยุโรปเปิดทำการปรับตัวลดลง โดยเฉพาะหุ้นแบงก์ร่วงแรง เครดิตสวิส ดิ่งลง 62% และหุ้น UBS ร่วง 14% ส่วนหุ้นแบงก์อื่นๆ ก็ปรับตัวลงไป 5-6%
สาเหตุหลักมาจากการ write off ตราสารหนี้ของธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่สามารถแปลงหนี้เป็นหุ้น และนับเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Additional 1:AT1) มูลค่า 1.73 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐถูกตัดเป็นศูนย์ และยังมีธนาคารอื่นในยุโรปที่มีตราสารหนี้ประเภทนี้ นักลงทุนกลัวว่าจะเป็นปัญหากลายเป็นโดมิโนจากความเสี่ยงในการถือตราสารหนี้ AT1 ส่งผลให้ช่วงบ่ายตลาดหุ้นยุโรปผันผวน และส่งผลมาถึงตลาดเอเชียเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกเรื่องยุบสภา ทำให้จากที่ดัชนีลงไปลึกถึง 20 จุดหลังจากประกาศยุบสภาจึงเด้งขึ้นมาลดช่วงลบไปได้บ้าง
แนวโน้มในวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดยังมีความผันผวนอยู่ แต่มองว่าจะเป็นภาพระยะสั้นกรณีที่ตราสารหนี้กลับมามีความเสี่ยงมากกว่าหุ้น แต่เชื่อว่าสุดท้ายเมื่อมีความชัดเจนมากขึ้น และผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 21-22 มี.ค.น่าจะทำให้ ความกังวลทิศทางนโยบายการเงินคลี่คลาย และคาดว่าเฟดจะพูดถึงความแข็งแกร่งของระบบธนาคาร ความเสี่ยงต่างๆ และปัญหาของธนาคารน่าจะสกัดได้ ดังนั้น แนะนำให้ลงทุนช่วงก่อนประชุมเฟดเพราะมองโอกาสตลาดจะรับข้อมูลทางบวกและจะทำให้ตลาดดีขึ้น
ให้แนวรับ 1,540 จุด แนวต้าน 1,565-1,570 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,656.24 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,368.39 ล้านบาท ปิดที่ 980.00 บาท ลดลง 16.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,046.87 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,943.92 ล้านบาท ปิดที่ 209.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,810.69 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท