KTAM ออกกองทริกเกอร์ลยหุ้นไทย ขาย 20-22 มี.ค.เป้า 5% ใน 6 เดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 20, 2023 18:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ อาทิเช่น การเปิดประเทศของจีน ที่เป็นตัวช่วยเร่งภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการมีแนวโน้มฟื้นตัว หรือเรื่องของเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดและมีแนวโน้มลดลง รวมถึงการเลือกตั้งในประเทศที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.นี้

โดยข้อมูลจาก SET Index ในอดีตที่ชี้ว่า หุ้นไทยมักจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยก่อนและหลังการเลือกตั้ง 30 วันอยู่ที่ +0.92% และ +3.47% ตามลำดับ เป็นต้น จึงมองว่าตลาดหุ้นไทยนับเป็นอีกหนึ่งตลาดการลงทุนที่น่าสนใจ และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ในสภาวะปัจจุบัน จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนทริกเกอร์เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน หลังจากก่อนหน้านี้ได้ประสบความสำเร็จจากการบริหารกองทุนทริกเกอร์ด้วยกันหลายกองทุน

บริษัทจึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดกรุงไทย ทริกเกอร์ ฟันด์ 7 (KT-TRIG7) เสนอขายเพียงครั้งเดียวระหว่างวันที่ 20 ? 22 มีนาคม 2566 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยตั้งเป้าหมายทริกเกอร์ 5% ภายในระยะเวลา 6 เดือน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นไทยที่มีศักยภาพเติบโตสูง

KT-TRIG7 มีนโยบายการลงทุนโดยกระจายเงินลงทุนของกองทุนในตลาดหุ้นไทย ตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด หรือให้ความเห็นชอบให้ลงทุนได้ โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนได้ในสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ อีกทั้งกองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging)

ทั้งนี้ กองทุนมีกลยุทธ์การลงทุน โดยพิจารณาจากระดับราคาหุ้นที่จะเข้าลงทุนเพื่อมุ่งหวังให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีชี้วัด (ดัชนีผลตอบแทนรวมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: SET TRI) โดยเน้นลงทุนหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีราคาตามมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสม

เบื้องต้นกองทุน KT-TRIG7 จะเน้นในลงทุนธีมหุ้นที่มีโอกาสเติบโต และได้รับประโยชน์จากหลายๆ ด้าน ได้แก่ การบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยวที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง (Domestic Consumption), การเปิดประเทศ (Re-Opening), เงินเฟ้อที่ชะลอตัว และต้นทุนการผลิตที่เริ่มลดลง (Commodity-Related), นโยบายภาครัฐและการเลือกตั้งในประเทศ (Government Measures), หุ้นที่ให้ผลตอบแทนในช่วงฤดูร้อน (Summer ? time Winner) และหุ้นที่ผลกำไรลดลงผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และราคาปรับต่ำเป็น Laggard (Laggard+Bottom out)

สำหรับเงื่อนไขการทริกเกอร์แบ่งเป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีที่ 1) หาก ณ วันทำการใดก็ตามเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.5555 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด ณ วันทำการใด หรือกรณีที่

2) หาก ณ วันทำการใดก็ตามที่ทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดบางส่วน หรือทั้งหมด และสามารถรับซื้อคืนได้ไม่ต่ำกว่าอัตราที่บริษัทจัดการกำหนด

ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งตาม (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี บริษัทจัดการจะพิจารณารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ มูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 105.00 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท)

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ไม่เกิดเหตุการณ์ที่มูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้เลิกกองทุนภายใน 6 เดือนนับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม บริษัทจัดการจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถทำการขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ตามที่บริษัทจัดการกำหนด และหาก ณ วันใดก็ตามที่กองทุนเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามเงื่อนไขที่บริษัทจัดการกำหนด บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการเลิกกองทุนตามเหตุการณ์ดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ