ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) ขานรับการรายงานผลประกอบการของซิตี้กรุ๊ปและกูเกิล อิงค์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลต่อผลกำไรของบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่หลายแห่งที่เกรงว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ภึงภาวะชะลอตัวในก่อนหน้านี้จะเป็นตัวฉุดอัตราการขยายตัวของผลกำไร แต่จนถึงขณะนี้การรายงานผลประกอบของบริษัทเอกชนส่วนใหญ่ออกมาสอดคล้องและสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้ดัชนีที่ซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กทั้งหมดพุ่งขึ้นกว่า 4% ในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 228.87 จุด หรือ 1.81% แตะระดับ 12,849.36 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 24.77 จุด หรือ 1.81 % แตะระดับ 1,390.33 จุด และ ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 61.14 จุด หรือ 2.61 % แตะระดับ 2,402.97 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.48 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วนกว่า 3 ต่อ 1
ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยยอดขาดทุนสุทธิไตรมาสแรกของปีนี้ที่ 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยธนาคารขาดทุนจากการปล่อยเงินกู้จำนองบ้านให้ลูกหนี้กลุ่มซับไพรม์ อย่างไรก็ดี ยอดขาดทุนดังกล่าวยังไม่สูงเท่ากับเมื่อไตรมาส 4 ปีที่แล้วที่เกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของกูเกิลก็ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วยเช่นกัน โดยบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกพุ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายคาดว่า กูเกิลจะรายงานตัวเลขผลประกอบการที่ซบเซาอันเป็นผลจากรายได้ในการดำเนินธุรกิจโฆษณาออนไลน์ที่ชะลอตัวลง
ซูบอดห์ คูมาร์ นักวิเคราะห์จาก Subodh Kumar & Assoc กล่าวว่า "บริษัทเอกชนในสหรัฐได้เริ่มทะยอยรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกในสัปดาห์นี้ ซึ่งโดยรวมพบว่าผลประกอบการออกมาเป็นที่น่าพอใจ ขณะที่ธนาคารหลายแห่งสามารถระดมทุนได้มากขึ้น ซึ่งตลาดก็ขานรับความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้เป็นอย่างดี"
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้พุ่งขึ้นปิดท้ายปลายสัปดาห์ หลังจากที่ออกตัวต้นสัปดาห์ไม่ค่อยคึกคักมากนัก แต่หลังจากที่เจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค บริษัทอินเทล คอร์ป และบริษัทโคคา-โคลา รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด นักลงทุนต่างหลั่งไหลส่งแรงซื้อเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง
หุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้น 4.5% ปิดที่ 25.11 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นกูเกิลทะยานขึ้น 20% ปิดที่ 539.41 ดอลลาร์ หลังจากบริษัททั้งสองรายงานผลประกอบการ
หุ้นคาเทอร์พิลลาร์ อิงค์เดินหน้า 8.5% ปิดที่ 85.28 ดอลลาร์ หลังมีรายงานว่าอุปสงค์เหมืองในตลาดโลกและผลผลิตด้านพลังงานได้ช่วยหนุนให้ผลประกอบการไตรมาสแรกพุ่งขึ้นดีเกินคาดถึง 13% ขณะที่บริษัทยังคงแนวโน้มผลประกอบการตลอดทั้งปีนี้ไว้ที่ระดับเดิม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล โทร.0-2253-5050 อีเมล์: orasa@infoquest.co.th--