นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท (SVR) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ (new high) จากปี 65 ที่มีรายได้รวม 726.15 ล้านบาท ตอกย้ำถึงการเติบโตสู่ระดับ High Growth อย่างยั่งยืนในอนาคต ด้วยจุดแข็งการพัฒนาโครงการแบบหมุนเร็ว (Quick Turnover) ก่อสร้างเร็ว -ขายเร็ว - ส่งมอบเร็ว และความคุ้มค่า (Premium Economy) ส่งผลให้ SVR ก้าวสู่การเป็นผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Premium Economy ภายใต้แนวคิด Best Smart Living รายแรกของประเทศ ของกลุ่ม Real Demand
การเติบโตดังกล่าวมาจากแผนการขับเคลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,621 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. สิวารมณ์ วิลเลจ ( บนทำเลบางกรวย-ไทรน้อย) บ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 242 ยูนิต บนพื้นที่ 24-3-39 ไร่ มูลค่าโครงการ 691 ล้านบาท ระดับราคาขายที่ 2-3.5 ล้านบาทต่อยูนิต โดยจะเปิดขาย (Pre Sale) ในช่วงไตรมาส 3/66และคาดว่าจะสามารถเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง 66 เป็นต้นไป
2. สิวารมณ์ ปาร์ค (บนทำซอยประชาอุทิศ 76) โครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 91 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 22-3-78 ไร่ มูลค่าโครงการ 528 ล้านบาท ระดับราคาขายที่ประมาณ 5 ล้านบาทต่อยูนิต โดยโครงการดังกล่าว คาดว่าจะเปิดขาย (Pre Sale) ในช่วงไตรมาส 3/2566 และเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4/66
3. สิวารมณ์ ไฮด์ (บนทำเลวงแหวนกาญจนาภิเษก ) โครงการบ้านเดี่ยว ขนาด 100 ตารางวา ภายใต้ แบรนด์ใหม่ "สิวารมณ์ ไฮด์" จำนวน 29 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 11-3-80.5 ไร่ มูลค่าโครงการ 401 ล้านบาท ระดับราคาขายที่ประมาณ 12 ล้านบาทต่อยูนิต โดยโครงการดังกล่าวเป็นการขยายเซกเมนต์ ผู้อยู่อาศัยระดับบน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ของบริษัทฯ โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะเปิดขาย(Pre Sale) ได้ในปลายไตรมาส 4/2566 และคาดว่าจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/66 เป็นต้นไป
จากแผนการเปิดตัว 3 โครงการใหม่จะส่งผลเชิงบวกต่อรายได้ที่จะเริ่มทยอยเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังทันที เนื่องจากทุกโครงการของ SVR เป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย ซึ่งสอดรับกับนโนบาย หมุนเร็ว-ขายเร็ว สู่การรับรู้รายได้ที่รวดเร็ว ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีโครงการที่รับรู้รายได้ต่อเนื่อง อาทิ แกรนด์ สิวารมณ์ (สุขุมวิท-บางปู) สิวารมณ์ วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู58) สิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา) และ สิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท-บางปู) เข้ามาในปี 66 ซึ่งจากการรับรู้รายได้ดังกล่าวส่งผลให้อัตราการเติบโตของ SVR ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
"ในปีนี้ SVR มีแผนขยายการพัฒนาโครงการเข้ามาในพื้นที่ใกล้โซน CBD ของกรุงเทพมากขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินค้า อีกทั้งยังขยายฐานกลุ่มลูกค้าเซกเมนต์ผู้อยู่อาศัยระดับบน ภายใต้การพัฒนาโครงการระดับพรีเมี่ยมบนบ้านระดับราคาที่สูงขึ้นแตะระดับ 12 ล้านบาท จากเดิมที่เราพัฒนาโครงการระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อยูนิต โดยมองว่าลูกค้าระดับดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ขอสินเชื่อผ่านง่าย มีความเสี่ยงต่ำ ดังนั้นเชื่อว่า 3 โครงการที่เตรียมเปิดตัวในไตรมาส 3 นี้ จะตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้ากลุ่มที่ยังมีดีมาด์สูง พร้อมทั้งเชื่อว่าจะสามารถเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯได้อย่างมีนัยสำคัญ"