นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดภูเก็ตยังเป็นตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อพักผ่อนที่ได้รับอานิสงค์จากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่อยู่บริเวณหาดบางเทามากถึง 45% รองลงมาเป็นที่หาดลายัน 31% และอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในด้านตะวันตกของภูเก็ตที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้ารัสเซียที่มีสัดส่วนหลัก 50-60% ของกลุ่มลูกค้าทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนโควิดที่มีสัดส่วน 15-20%
สินค้าในภูเก็ตที่ได้รับความนิยม คือ วิลลา และพูลวิลลา ที่มีแนวโน้มสดใส โดยอุปสงค์และอุปทานเติบโตทั้งการซื้อและเช่า จากกำลังซื้อที่เกิดขึ้นพบว่าชาวต่างชาติบางคนสนใจซื้อบ้านที่ภูเก็ตไว้เป็นบ้านหลังที่สอง ในขณะที่บางคนสนใจเช่าวิลลามากกว่าคอนโดมิเนียม เพราะต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัว และยังสามารถปล่อยเช่า สร้างผลตอบแทนได้ 8-10% ต่อปี
ในช่วงปลายปี 65 วิลลาในภูเก็ต ขายได้ 3,595 ยูนิต จากทั้งหมด 4,375 ยูนิต คิดเป็นอัตราขาย 82.1% เพิ่มขึ้นจากปี 64 ที่มียูนิตใหม่ขายได้ 3,224 หลัง หรือเพิ่มขึ้น 1% อัตราขาย 81% จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดวิลล่าเป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้ามาในไทยด้วยเหตุผลต้องการหนีภาวะสงครามและเพื่อท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของประเทศที่จะห้ามโอนเงินข้ามประเทศหรืออายัดบัญชี ซึ่งจะทำให้ในอนาคตไม่สามารถทำธุรกรรมประเภทเดบิตได้ จึงรีบเข้ามาซื้อก่อน
ทั้งนี้ ทำเลที่ได้รับความนิยมในการพัฒนาวิลล่ามากที่สุดอยู่ในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล แม้ไม่ติดชายหาด แต่ใกล้ภูเขาและป่าไม้บรรยากาศโดยรวมเงียบสงบกว่าและเหมาะแก่การพักผ่อน
ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตช่วงปลายปี 65 คอนโดมิเนียมขายได้ 18,613 ยูนิต จาก 24,211 ยูนิต คิดเป็นยอดขาย 76.9% ลดลงจากปี 64 ณ ปัจจุบันมียูนิตเหลือขายอยู่ในตลาด 5,598 ยูนิต โดยภาพรวมคาดว่าตลาดจะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 ได้ภายใน 1-2 ปี
ทิศทางการพัฒนาคอนโดมิเนียมในภูเก็ตยังไม่กลับมาคึกคักมากนัก เพราะปริมาณซัพพลายคอนโดมิเนียมในภูเก็ตยังมีอยู่ค่อนข้างมาก และกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักยังไม่กลับมาอย่างเต็มที่ คงต้องรอให้การท่องเที่ยวของกลุ่มคนจีนด้วยกันกลับมาฟื้นตัวเต็มที่ก่อน น่าจะใช้ระยะเวลาราว 6-7 เดือนก่อนที่จะมั่นใจและกลับมาซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีนด้วยกัน และช่วงนี้ยังเน้นไปที่การลงทุนสวนทุเรียนที่เป็นหนึ่งในธุรกิจที่คนจีนสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะคนจีนชอบกินทุเรียน
ความสนใจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตยังกระจุกตัวอยู่ที่ทำเลหาดกะตะ หาดกะรน หาดป่าตอง หาดกมลา หาดบางเทา เชิงทะเล (ลากูนา) และหาดในทอน ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ดังกล่าวขยับขึ้นอีก 15-20% และในบางทำเล เช่น ถนนป่าสัก-โคกโตนด ราคาที่ดินปรับขึ้น 25-30% และคาดว่าความต้องการของลูกค้ารัสเซียจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยการตัดสินใจซื้อจะมองเรื่องทำเล ราคาขาย และชื่อเสียงของผู้พัฒนาโครงการ ซึ่งนอกจากชาวรัสเซียแล้วยังมีความต้องการจากลูกค้าชาวจีนสนับสนุนเข้ามาอีกทางหนึ่ง