นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ ยังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ แต่ภาพของดัชนีถือว่าสามารถรีบาวด์กลับมายืนที่ระดับ 1,600 จุดได้ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา จะมีวอลุ่มการซื้อขายไม่มาก ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น
ขณะที่วันนี้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดหรือไม่ รวมทั้งจะมีการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้ออย่างไร พร้อมกับรอติดตามว่า กนง.จะส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในระยะต่อไปหรือไม่
โดยให้แนวต้าน 1,610-1,620 จุด แนวรับ 1,590-1,580 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (28 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,394.25 จุด ลดลง 37.83 จุด หรือ -0.12%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,971.27 จุด ลดลง 6.26 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,716.08 จุด ลดลง 52.76 จุด หรือ -0.45%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,573.82 จุด เพิ่มขึ้น 96.95 จุด หรือ +0.35%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,688.31 จุด เพิ่มขึ้น 120.62 จุด หรือ +0.62% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,256.60 จุด เพิ่มขึ้น 5.20 จุด หรือ +0.16%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 มี.ค.66) 1,606.91 จุด เพิ่มขึ้น 13.54 จุด (+0.85%) มูลค่าการซื้อขาย 44,685.40ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,351.46 ลบ.เมื่อวันที่ 28 มี.ค.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. (28 มี.ค.)เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 73.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 มี.ค.) อยู่ที่ 8.15 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.23 จับตาประชุม กนง. คาดกรอบวันนี้ 34.05-34.40
- กูรูฟันธงปีนี้ "กนง." ขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง คาดมติวันนี้ขยับ 0.25% เหตุเศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวไม่เต็มที่ ตลาดเงินผันผวน เงินเฟ้ออาจปรับขึ้น จากดีมานด์ภาคท่องเที่ยว ดันราคาสินค้าขยับ ทีทีบีหวั่นส่งออกชะลอ กระทบจีดีพีครึ่งปีหลัง
- ส.อ.ท.เปิดผลสำรวจ FTI Poll งานด่วนภายใน 90 วันของรัฐบาลใหม่ เสนอแก้ปัญหาพลังงานทั้งระบบ ไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซ หวังค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค.ลดลง หลังคนไทยรับค่าไฟสูงเกินจริงเพราะมีต้นทุนแฝง "เกรียงไกร" พร้อมลุยงานเร่งอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เชื่อมบีซีจี รับมือเทรนด์ลดคาร์บอน
- ครม.รับทราบรายงานความเสี่ยงทางการคลังปี 2565 เผยหนี้สาธารณะพุ่ง 10.37 ล้านล้านบาท คิดเป็น 60.41% ต่อจีดีพี ขณะที่เงินคงคลังยังสูงต่อเนื่องแตะ 6.24 แสนล้านบาท
- ไฮสปีด 3 สนามบินวุ่นไม่จบ "สุพัฒนพงษ์" ประธานบอร์ด อนุฯ กบอ. ตีกลับร่างแก้สัญญา ปม "สร้างไป-จ่ายไป" เสี่ยงทิ้งงานหลังเปิดช่องสร้างทีละท่อน สั่งรฟท.-เอกชน-สกพอ. วางกรอบให้แน่นหนา ขีดเส้น 31 มี.ค.นี้ ก่อนเข้าที่ประชุม กพอ.โยนรัฐบาลใหม่ชี้ขาด
*หุ้นเด่นวันนี้
- SEAFCO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" กรอบราคาเป้าหมาย 4.50-5 บาท โมเมนตัมกำไรไตรมาส 1/66 จะฟื้นตัวเด่น q-q และ y-y จากทั้งรายได้และ Margin เร่งตัวตามงานในมือ รวมถึงสัดส่วนงานค่าแรงมากขึ้น ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1.5 พันลบ.เติบโตราวเท่าตัวจากปีก่อน Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ 1.5 พันลบ.และอยู่ระหว่างประมูล 9.4 พันลบ. เบื้องต้นคาดปี 66 จะพลิกมีกำไรได้ราว 100 ลบ.จากขาดทุนปีก่อน และเตรียมจับมือ Partner รุกตลาดบังคลาเทศ
- AP (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 14.40 บาท คาดกลุ่มอสังหาฯปีนี้ยังมีปัจจัยบวกจาก Demand ฝั่งชาวต่างชาติ รวมไปถึงมาตรการผ่อนคลายบางส่วนต่อเนื่องจากปี 65 ปี 66 มีแผนเปิดโครงการใหม่ 58 โครงการ มูลค่าประมาณ 7.7 หมื่นลบ.(บ้านเดี่ยว 22/ทาวน์โฮม 27 มูลค่า 26,400 ลบ./คอนโดฯ 4/โครงการตจว. 5 โครงการ) ตั้งเป้ายอดขาย 58,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 57,500 ล้านบาท ตลาดคาดกำไรปี 66 และ ปี 67 ที่ 6,259 ลบ. (+6.5%YoY) และ 6,567 ลบ.(+5.0%YoY) ตามลำดับ
- EA (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า BB Consensus 92.5 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงสะท้อนข่าวเรือเพลิงใหม้เมื่อเดือนก.พ.ไปแล้ว ปีนี้มีการส่งมอบรถ EV และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการเปลี่ยนรถประจำทางเป็นรถ EV มากขึ้น