สมาคมจีเอสเอ็มโลก(GSM Association/GSMA) เรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) พิจารณาออกใบอนุญาตการให้บริการ 3G บนแถบความถี่ 2100MHz ภายในเดือน ส.ค.นี้
นายริคาร์โด ทาวาเรส รองประธานบริหารอาวุโส ฝ่ายนโยบายสาธารณะของ GSMA เปิดเผยว่า การเปิดให้บริการ 3G ด้วยเทคโนโลยี HSPA จะก่อให้เกิดการปรับปรุงการให้บริการบรอดแบนด์ในประเทศไทยอย่างมหาศาล เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ของครัวเรือนเพียง 2.2% ทำให้ประเทศมีอัตราการเติบโตด้านการสื่อสารสารสนเทศล้าหลังกว่าหลายๆ ประเทศเพื่อนบ้าน
"การวางระบบการเชื่อมต่อโครงข่ายพื้นฐาน(fixed line) มีต้นทุนที่สูงและมีประสิทธิภาพน้อยกว่าเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจต่อประเทศไทยจากการให้บริการบรอดแบนด์ที่แพร่หลายทั่วประเทศ ถึงแม้ว่าการปรับปรุงการให้บริการ 3G บนแถบความถี่ 900MHz และ 850MHz จะช่วยเริ่มขยายตลาดบรอดแบนด์ไร้สาย แต่ทว่าการออกใบอนุญาตการให้บริการ 3G บนแถบความถี่ 2100MHz ยังเป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดบรอดแบนด์ไร้สาย เนื่องจากโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ต่างๆ ได้ถูกออกแบบการทำงานบนแถบความถี่ที่สอดคล้องกันนี้ทั่วโลก" นายริคาร์โด กล่าว
ผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำทั้งสามรายของประเทศไทย ทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ ต่างเชื่อว่าตลาดไร้สายของไทยพร้อมแล้วสำหรับการเปิดให้บริการ 3G ซึ่งผู้ให้บริการทุกรายต่างกระตือรือร้นที่จะเปิดให้บริการบรอดแบนด์ไร้สาย HSPA เพื่อตอบสนองความต้องการในการเชื่อมต่อความเร็วสูงทั้งทางด้านอินเทอร์เน็ตและบริการมัลติมีเดียต่างๆ โดยตลาดการสื่อสารไร้สายยุค 2G ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตถึงจุดอิ่มตัวแล้วด้วยจำนวนผู้ใช้บริการ 56.2 ล้านราย (98.2% เลือกใช้ระบบจีเอสเอ็ม) มีอัตราการใช้สูงถึง 88.3% ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเข้าถึงการสื่อสารไร้สายที่สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--