บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ประกาศชัดเจนเดินหน้าดีลซื้อ บมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) หรือ 3BB ส่วนจะมีการต่อรองราคาหรือไม่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยมองว่า TTTBB จะเข้ามาช่วยหนุนธุรกิจ Fixed Broadband ให้เร่งตัวโตขึ้นได้ ขณะที่วางเป้าหมายรายได้จากการบริการในช่วง 3 ปีจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 3-5%
บริษัทมีแผนปรับสัดส่วนรายได้จากธุรกิจมือถือลดลงมาเหลือไม่น้อยกว่า 70% จากเดิม 85% ขณะที่ธุรกิจ Fixed Broadband และธุรกิจลูกค้าองค์กร (Enterprise) จะเพิ่มขึ้น 30% จาก 15% พร้อมเดินหน้าขยายโครงข่ายให้แข็งแกร่งและครอบคลุมมากขึ้นด้วยการทุ่มงบ 9 หมื่นล้านบาทในช่วง 3 ปี หรือปีละ 3 หมื่นล้านบาท
"ผมได้ทำหนังสือแจ้งตลาดฯเรายังมีเจตนารมณ์ซื้อ 3BB แต่เนื่องจากเป็น Commercial Deal ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ อันนี้ต้องรอ กสทช.อนุมัติก่อน" นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) กล่าว
ก่อนหน้านี้ TTTBB แจ้งการชำระค่าเช่าให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน้ต จัสมิน (JASIF) ได้ไม่ครบเพราะขาดสภาพคล่อง
นายสมชัย เชื่อว่าดีลซื้อ 3BB ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเป็นดีลที่สะอาดโปร่งใส และหากควบรวมกันแล้ว ADVANC จะเป็นผู้เล่นรายใหญ่ โดยจะเข้ามาจะช่วยหนุนธุรกิจ Fixed Broadband ซึ่ง 3BB มีลูกค้า 2.4 ล้านราย ขณะที่เอไอเอสไฟเบอร์มีลูกค้า 2.2 ล้านราย โดยธุรกิจของ 3BB ยังมี Operating Cashflow แต่ปัจจุบันมีปัญหาการจ่ายค่าเช่าทรัพย์สินประกอบการให้กับกองทุน JASIF เพราะต้องจ่ายในอัตราที่แพง ซึ่ง ADVANC ก็เคยยื่นขอต่อรองราคาค่าเช่าโดยยืดระยะเวลาเช่าออกไป แต่ผู้ถือหน่วยไม่อนุมัติ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC ยังเปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้จากการให้บริการในช่วง 3 ปีนี้เติบโตเฉลี่ยปีละ 3-5% แม้จะปรับลดสัดส่วนธุรกิจมือถือลง แต่รายได้ไม่ได้ลดลง แต่จะขยายธุรกิจ Fixed Broadband และกลุ่มลูกค้าองค์กร เพิ่มขึ้นมาเป็น 30% โดย Fixed Broadband มีประมาณ 20%
ขณะที่บริษัทยังพร้อมรุกขยายโครงข่าย 5G ให้แข็งแกร่งและครอบคลุมมากขึ้น ดังนั้น ADVANC ก็จะยังเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องในช่วง 3 ปีนี้ปีละ 3 หมื่นล้านบาท
ส่วนธุรกิจ Digital Service ยังมีสัดส่วนที่น้อยมาก แต่จะเติบโตได้ขึ้นกับพฤติกรรมผู้บริโภค โดยมองว่าหากบริษัทดำเนินธุรกิจธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ก็จะทำให้ธุรกิจ Digital Service เติบโตได้อย่างมาก
ทั้งนี้ ADVANC จะร่วมกับธนาคารกรุงไทย (KTB) และ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ขอใบอนุญาตธุรกิจ Virtual Bank หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศร่างแนวทางการอนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank Licensing Framework ? BoT Consultative Paper) ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
นายสมชัย กล่าวว่า ADVANC มีฐานลูกค้า 46 ล้านรายและมี Data ที่รู้จักลูกค้าดีว่ามีเครดิตอย่างไร ขณะที่ KTB ก็รู้วิธีการปล่อยกู้ ส่วน GULF ก็ต้องการ Diversify ธุรกิจไฟฟ้า ซึ่ง Virtual Bank จะเป็น New S-Cuvre ใหม่ให้กับ 3 ราย จึงเกิดความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่า ในตลาดล่างยังมีความต้องการเงินกู้จำนวนมาก อย่างที่เห็นว่ามีการใช้เงินกู้นอกระบบจำนวนมาก
"Digital Service ยังมองไว้อีกหลายหลายรูปบบ แต่จะไม่บุ่มบ่ามทำ จะทำโดยมีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ย้ำว่าเราไม่กินรวบ"นายสมชัย กล่าว
*สร้างพันธมิตรเติมเต็ม ECOSYSTEM ECONOMY
นายสมชัย กล่าวเน้นย้ำว่า การดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ Cognitive Tech-Co เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและคนไทยในการก้าวข้ามทุกข้อจำกัด และเติมเต็ม ECOSYSTEM ECONOMY หรือเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วม โดยดำเนินผ่าน Data Insight & Customer Cate กำลังสร้าง Data Analyitc ให้เก่งขึ้น , การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ เปลี่ยนโครงสร้างเป็น IT Intelligence และ Autonomous Network เชื่อว่าจะทำได้เห็นผลในสิ้นปี 67
ขณะที่ประมาณการในปี 2570 จะมีการใช้ซิม หรือ device ถึง 800 ล้านเลขหมาย โดยปัจจุบันผู้ใช้บริการมือถือ 2 ค่ายรวมกว่า 100 ล้านเลขหมาย แต่ในอนาคตจะมีการใช้ซิมเพิ่มใน Internet of Thing หลาย device มากขึ้น
ADVANC เห็นว่าในยุคดิจิทัลจะเป็นโอกาสของบริษัทเล็กๆ เกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันมี SME ราว 3.2 ล้านคน ดังนั้น ADVANC จึงมองว่าต้องใช้ ECOSYSTEM ECONOMY หรือเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วม เพื่อขับเคลื่อนองคาพยพไปด้วยกันเติบโตขึ้นมา โดยผ่าน 3 แกนหลักได้แก่
- Digital Intelligence Infrastructure: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอัจฉริยะ จากโครงข่าย 5G และเน็ตบ้าน พร้อม 5G Platform เพื่อภาคอุตสาหกรรม ด้วยการลงทุนในปีนี้ที่ 27,000 - 30,000 ล้านบาท
- Cross Industry Collaboration: เชื่อมต่อธุรกิจข้ามอุตสาหกรรม พร้อมร่วมมือกับผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 1.8 ล้าน ร้านค้าทั่วประเทศ สร้างการเติบโตไปด้วยกัน พร้อมประโยชน์เพื่อลูกค้า
- Human Capital & Sustainability: ยกระดับขีดความสามารถของ Digital Talent และคนไทยผ่าน Education Platform รวมถึงส่งเสริมความรู้ทักษะดิจิทัลสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์
ปัจจุบัน ADVANC ถือครองคลื่นความถี่มากที่สุด ครบทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง รวมกว่า 1460 MHz รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) เพื่อร่วมกันพัฒนา Digital Infrastructure ของประเทศให้มีความแข็งแกร่ง จากการมีคลื่น 700 MHz เพิ่มขึ้นอีก 10 MHz (Downlink 5 MHz และ Uplink 5 MHz) ทำให้ AIS มีคลื่น 700 MHz รวมเป็น 40 MHz (Downlink 20 MHz และ Uplink 20 MHz) ซึ่งจะทำให้ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ในส่วนของ 5G SA (Stand Alone) ซึ่งมีความสามารถในการช่วยประหยัดพลังงาน โดย AIS เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่สามารถเปิดให้บริการได้ครบทั้ง 77 จังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตพื้นที่เศรษฐกิจ EEC ที่ครอบคลุมกว่า 92% ล่าสุดยกระดับการให้บริการที่รองรับ Millimeter Wave ในย่านความถี่สูงเป็นครั้งแรก ประกาศศักยภาพความเร็วแรงทะลุมาตรฐาน 5G ที่ 3Gbps บนเครือข่าย 5G Millimeter Wave ย่าน 26 GHz รายแรก รายเดียวในไทย ผ่านสมาร์ทโฟนระดับโลก
และการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทุกภาคส่วนข้ามอุตสาหกรรมแบบ Cross Industry ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับโลกเพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน โดยในปีนี้เรายังคงทำงานร่วมกับร้านค้าถุงเงิน ร้านธงฟ้า ร้านค้ารายย่อย โชว์ห่วย ร้านสตรีทฟู้ด รวมกว่า 1.8 ล้าน ร้านค้าทั่วประเทศ ผ่านโครงการพอยท์เพย์ จากธนาคารกรุงไทย รวมถึงการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการธุรกิจค้าปลีกชั้นนำของไทยอย่าง เครือเซ็นทรัล รวมถึงร้านค้าแบรนด์ดังจากทั่วประเทศรวมมากกว่า 20,000 ร้านค้า เพื่อเป็นการขับเคลื่อนและสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก ให้ลูกค้าสามารถนำ AIS Points มาแลกรับสิทธิพิเศษได้อย่างมากมายทั้ง กิน เที่ยว ช้อปปิ้ง ในขณะเดียวกันก็ได้ทำงานร่วมกับธนาคารกรุงเทพเพื่อส่งมอบบริการทางการเงินอย่าง บัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแง่ของการสะสมคะแนนจากพาร์ทเนอร์นอกเหนือจากการใช้บริการของ AIS พร้อมขยายการช้อปปิ้งออนไลน์ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
AIS ยังทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกเพื่อส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น SAMSUNG ที่ร่วมกันมอบความพิเศษกับการใช้งานเน็ตบ้านพร้อมสมาร์ททีวีตอบโจทย์การใช้งานด้านความบันเทิงในบ้านอย่างครบถ้วน, ZTE กับแท็บเล็ตสามมิติ Nubia Pad 3D ที่ทำงานด้วยเทคโนโลยี AI รุ่นแรกของโลกสามารถทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การจำลองภาพเสมือนจริงทั้ง การสื่อสาร สตรีมมิ่ง และการเล่นเกม รวมถึงการแชร์ข้อมูลในรูปแบบ 3 มิติโดยไม่ต้องสวมอุปกรณ์เสริม หรือแม้แต่การนำเสนอบริการทางการเงินร่วมกับสถาบันทางการเงิน อย่าง UOB กับบริการ UOB Best Buy เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงการใช้งานจากสมาร์ทโฟน 5G ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
ที่พิเศษกว่านั้นคือการก้าวข้ามขีดจำกัด เดินหน้าผนึกกำลังร่วมกับพาร์ทเนอร์ในกลุ่ม Content Provider ทั้งระดับประเทศและระดับโลกมาให้คนไทยได้รับชมสุดยอดคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็น Disney+ Hotstar, NETFLIX, 3Plus, MONOMAX และสุดยอดคอนเทนต์กีฬาระดับโลกกับ ไม่ว่าจะเป็น เทนนิส ฟุตบอลทั้งยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ยูฟ่ายูโรปาลีก และ ลีกชั้นนำของยุโรปอีกมากมาย กับช่อง beIN Sports ที่วันนี้ได้มอบความพิเศษให้กับลูกค้า AIS รับชมฟรีทุกช่องทุกรายการแข่งขันได้ถึง 11 เมษายน 2566
"ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องมากที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้ AIS พร้อมก้าวข้ามทุกขีดจำกัดผลักดันให้เกิด เศรษฐกิจแบบร่วมกัน ECOSYSTEM ECONOMY เพื่อส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัล ทั้งโครงข่ายสื่อสารอัจฉริยะ และเน็ตบ้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์มากที่สุด รวมถึงงานบริการที่ดีที่สุด ภายใต้การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทุกภาคส่วน สอดประสานการทำงานโดยใช้จุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาสร้างการเติบโตร่วมกันให้กับลูกค้า คนไทย และประเทศชาติ"นายสมชัย กล่าว