นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ (SJWD) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทรุกเข้าสู่ธุรกิจพื้นที่เก็บของส่วนตัวให้เช่า (Self-Store) เมื่อปี 61 ผ่านการดำเนินงานโดยบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี สโตร์ อิท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยมี บริษัท สโตร์ อิท! แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้นำธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัวจากประเทศสิงคโปร์ และ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมทุนเพิ่มความแข็งแกร่ง เพื่อขยายธุรกิจแบบ B2C ตอบสนองดีมานด์เช่าพื้นที่เก็บของบนทำเลยุทธศาสตร์ เนื่องจากมองเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว จากเทรนด์ที่อยู่อาศัยที่มีขนาดเล็กเพราะราคาที่ดินที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซส่งผลให้มีความต้องการพื้นที่เก็บของส่วนตัวที่แยกจากพื้นที่อยู่อาศัย
ปัจจุบันได้เปิดให้บริการ Self-Storage ภายใต้ชื่อ JWD Store It! แล้วทั้งหมด 7 สาขา ได้แก่ ศรีกรีฑา, สยาม, เทียมร่วมมิตร, รามอินทรา, พระราม 9, ลาดพร้าว และ ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ฯลฯ โดยล่าสุดเตรียมเปิดบริการอีก 2 สาขา ภายในปีนี้ คือ พัทยาและบางซื่อ รวมเป็น 9 สาขา คิดเป็นพื้นที่รวมทั้งสิ้นกว่า 15,000 ตารางเมตร
นายวศิน สุภเวชย์ ผู้จัดการทั่วไป เจดับเบิ้ลยูดี สโตร์ อิท! กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดให้บริการ JWD Store It! อีก 2 สาขาภายในปีนี้ว่า บริษัทเตรียมเปิดบริการสาขาพัทยาในเดือน ก.ค.นี้ภายในโครงการพัทยา อเวนิว บนถนนพัทยาสาย 2 พื้นที่ให้เช่า 1,700 ตารางเมตร จากพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 2,400 ตารางเมตร อัตราค่าบริการเริ่มต้น 900 บาทต่อเดือน
โดยพัทยาถือเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคตะวันออก ซึ่งสาขาดังกล่าวเป็นความร่วมมือกับ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา พาร์ทเนอร์ของบริษัทฯ ในการจัดหาพื้นที่ มองกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา รวมไปถึงบริษัทและร้านค้าที่มีความต้องการใช้พื้นที่เก็บของใช้ส่วนตัว เก็บสต็อคสินค้า หรือเก็บเอกสาร โดยมีจุดเด่นคือลูกค้าสามารถเข้าออกพื้นที่เก็บของได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
ส่วนในเดือน ก.ย.นี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดบริการ JWD Store It! สาขาบางซื่อ มีพื้นที่ให้เช่ากว่า 2,800 ตารางเมตร จากพื้นที่อาคารรวมกว่า 5,000 ตารางเมตร ถือเป็นแฟลกชิพสโตร์แห่งใหม่ที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ในเขตจตุจักรที่มีประชากรกว่า 150,000 คน มากเป็นอันดับ 10 จากทั้งหมด 50 เขตในพื้นที่กรุงเทพฯ ห่างจากสถานีกลางบางซื่อ (สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์) เพียง 250 เมตร ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ศูนย์กลางขนส่งทางราง คาดว่าจะมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 700 บาทต่อเดือน
จุดเด่นของสาขาบางซื่อได้ออกแบบให้มีห้องเก็บของขนาดใหญ่ พื้นที่ 50 ตารางเมตร ซึ่งสามารถรวมกันเป็นห้องขนาด 200 ตารางเมตร และยังมีห้องแบบ drive-up unit ที่สามารถจอดเทียบด้านหน้าให้เพื่อขนถ่ายของได้อย่างสะดวก หรือจะ drive-in ขับเข้าไปจอดด้านในห้องก็ได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการจัดเก็บสินค้าที่นำมาขนส่งทางราง เนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ
"ปัจจุบัน Self-Storage ทั้ง 7 สาขาที่เปิดบริการมีอัตราเช่าพื้นที่เกิน 60% แล้ว และมั่นใจว่าการเปิดอีก 2 สาขาใหม่จะได้รับการตอบรับที่ดี โดยวางเป้าหมายมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในปีที่ 1 2 และ 3 อยู่ที่ 30% 60% และ 90% ตามลำดับ โดยสาขาพัทยาใช้งบลงทุน 13 ล้านบาท และสาขาบางซื่อใช้งบลงทุน 84 ล้านบาท คาดว่าจะใช้ระยะเวลาคืนทุน 6-7 ปี" นายวศิน กล่าว
ทั้งนี้ จากจำนวน Self-Storage ที่เปิดให้บริการแล้ว 7 สาขา ณ สิ้นปี 65 ถือว่าบริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจพื้นที่เก็บของส่วนตัว ให้เช่าที่มีจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการมากที่สุด และก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจพื้นที่เก็บของส่วนตัวให้เช่าในประเทศไทย โดยแผนงาน ต่อจากนี้บริษัทจะร่วมกับพาร์ทเนอร์รุกขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ในทำเลศักยภาพที่มีประชาชากรอยู่อาศัยหนาแน่น ย่านธุรกิจ และพื้นที่ยุทธศาสตร์อื่น ๆ ที่มีศักยภาพเติบโตสูง
นอกจากนี้บริษัทเตรียมขยายบริการใหม่ตู้ล็อกเกอร์อัตโนมัติเพื่อให้บริการจัดเก็บสัมภาระ วางแผนนำร่องเปิดให้บริการที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เป็นแห่งแรกช่วงกลางปีนี้ เพื่อตอบสนองดีมานด์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวในพื้นที่หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ