(เพิ่มเติม) TUF เผยเห็นสัญญาณบวก หลังก.พาณิชย์สหรัฐรับรู้ข้อร้องเรียนกรณี AD กุ้ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 21, 2008 17:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์(TUF)  เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้รับทราบข้อร้องเรียนของบริษัทฯ ในกรณีการทุ่มตลาด(AD)สินค้ากุ้ง โดยบอกว่าจะทบทวนการเก็บภาษี AD ให้แก่บริษัท ซึ่งคาดว่าจะทราบผลได้ราวต้นเดือนก.ย.นี้
"ตอนนี้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รับรู้ข้อร้องเรียนของเราแล้ว เชื่อว่าแนวโน้มจะดี เราติดตามเรื่องนี้ใกล้ชิด...ตอนนี้เราหวังว่า Rate ที่เรียกเก็บ(AD ที่เก็บจาก TUF) อาจจะต่ำกว่าของประเทศไทย" นายธีรพงศ์ กล่าว
ปัจจุบันอัตราภาษี AD กุ้งที่ไทยต้องจ่ายให้สหรัฐฯ อยู่ที่ 5.9% ขณะที่ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษี AD กุ้งเบื้องต้นที่จะเรียกจาก TUF ไว้อยู่ที่ 15.30%
นายธีรพงศ์ กล่าวว่า ทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ได้แจ้งมาว่าเกิดการผิดพลาดทางเทคนิค และจะตรวจสอบการทุ่มตลาดของบริษัท รวมถึงทบทวนตัวเลขต่างๆ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดเพราะบริษัทไม่ได้ทุ่มตลาด และคาดว่าจะทำให้อัตรา AD ที่ต้องจ่ายต่ำลงที่ 1%
*คาดกำไรสุทธิ Q1/51 สูงกว่า Q1/50
นายธีรพงศ์ คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิในปี 51 จะสูงกว่าปีก่อนในไตรมาสเดียวกัน เนื่องจากยอดขายเติบโต และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จากที่บริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 2/51 ก็จะยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย
ขณะเดียวกัน นายธีรพงศ์ มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้ในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐจะเพิ่มขึ้น 12% ได้ตามเป้า เป็น 1.6 พันล้านเหรียญ แต่ในรูปเงินบาทคาดว่าจะปรับตัวลดลงต่ำกว่าประมาณการไว้ที่คาดว่าจะโต 6% มาที่ 5.89 หมื่นล้านบาท จาก 5.5 หมื่นล้านบาทจากที่เงินบาทแข็งค่ากว่าที่คาดไว้ต้นปีที่ 32.50 บาท/ดอลลาร์
แต่ขณะนี้ เงินบาทเริ่มนิ่ง ที่ 31 บาทกว่าต่อดอลลาร์บริษัทจะสามารถจัดการบริหารดีกว่า และคาดว่าจะเห็นกำไรสุทธิปีนี้ดีกว่าปีก่อน
แม้ว่าราคาปลาทูน่าล่วงหน้าในเดือนพ.ค.อยู่ที่ 1,650 เหรียญ/ตัน ซึ่งกลับขึ้นมาแตะระดับสูงสุด และมีแนวโน้มปรับขึ้นไปอีก ซึ่งบริษัทก็จะปรับขึ้นราคาตามต้นทุน และเชื่อว่าในปีนี้จะมีกำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ได้ที่ประมาณ 14%
"ใน 2 ปีทีผ่านมา ยอมรับว่า ไม่สามารถทำกำไรเติบโตได้ เนื่องจากว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ขณะนี้เงินบาทเริ่มนิ่งก็คิดว่าปีนี้เราจะสามารถทำกำไรได้" นายธีรพงศ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ