ETC ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 4.21% หรือเพิ่มขึ้น 0.18 บาท มาที่ 4.46 บาท มูลค่าซื้อขาย 48.71 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.00 น.จากราคาเปิด 4.58 บาท ราคาขึ้นไปสูงสุด 4.58 บาท ราคาต่ำสุด 4.46 บาท
BWG ปรับตัวขึ้น 4.08% หรือเพิ่มขึ้น 0.04 บาท มาที่ 1.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 59.70 ล้านบาท
บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) และบมจ.เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) หลังชนะโครงการโรงไฟฟ้าขยะครบ 10 โครงการ บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ "ซื้อ" หลัง กกพ.ประกาศผู้ชนะโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมทั้งหมด 13 ราย โดย ETC ได้รับการคัดเลือกครบ 10 โครงการที่ยื่นเสนอ กำลังขายไฟฟ้ารวม 80 MW ดีกว่าคาด
ผลออกมาในกรณี Best Case ทั้ง 10 โครงการ ซึ่งจะทำให้
1.ETC มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นมาอีก 80 MW เพิ่มขึ้นมาอีกว่า 5 เท่า จากกำลังการผลิตปัจจุบันที่ 16.5 MW
2.ETC กำไรจะมาเป็น 1.6 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าบนสมมติฐานกำไรต่อ MW ประมาณ 18 ล้านบาทต่อ MW
3.ETC Target Price ใหม่ของเราจะเป็น 8.80 บาทในกรณีนี้
4.สำหรับ BWG จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก ETC เข้ามากว่าปีละ 630 ล้านบาท
5.BWG จะต้องสร้าง Solid Recovered Fuel (SRF) Plant 2,500 ตันต่อวันเพื่อรองรับโรงไฟฟ้า ETC ทั้ง 10 โรง ซึ่งจะสร้างกำไรได้ราวปีละ 80-100 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานของ BWG คาดแนวโน้มปี 66 สดใส กำไร Turnaround คาดแนวโน้มจะกลับมามีกำไรอีกครั้ง ประเมินกำไร 85 ล้านบาท จากปี 65 ที่คาดจะขาดทุน -76 ล้านบาท ด้วยแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ดีขึ้น ประเมินว่าธุรกิจรับกำจัดขยะอุตสาหกรรมน่าจะโตได้ราว 10% และมี Gross Margin ที่ดีขึ้นมาอยู่ที่ 20% จากปี 65 ที่ Margin อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 10% ซึ่งมาจากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มกลับมาดีขึ้นส่งผลให้ปริมาณของขยะอุตสาหกรรมที่ต้องกำจัดเพิ่มขึ้น
กำไรจะเพิ่มขึ้น 7 เท่าในอีก 3 ปี ในปีที่เปิดดำเนินงานครบ (80MW) BWG จะมีกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 700 ล้านบาทเพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่า จากทั้งส่วนแบ่งกำไรจาก ETC ที่เพิ่มขึ้น และกำไรจากโรงงาน SRF จากในปี 65 ที่ผ่านมาบริษัทยังเป็นขาดทุนอยู่ราว -144 ล้านบาท และเราประเมินกำไรปี 66 ที่ 85 ล้านบาท
แนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 2.81 บาท ด้วยวิธี SOTP แบ่งเป็นมูลค่าธุรกิจปัจจุบันประมาณ 0.80 บาท อิง PBV ที่ 1.15 เท่า และ โครงการ SRF Plant 0.60 บาท อิง PER ที่ 10x และมูลค่าโรงไฟฟ้าถือหุ้นผ่าน ETC 44% ที่ 1.41 บาท