บล.เอเชียพลัส ระบุว่า เข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบกลุ่มธนาคารเริ่มแห่งแรก TISCO ในวันที่ 18 เม.ย. 66 ก่อนจะปิดท้ายด้วยแบงก์ใหญ่ อย่าง KBANK และ SCB วันที่ 21 เม.ย. 66
แนวโน้มกำไรสุทธิกลุ่มฯ (8 ธนาคาร) งวด Q1/66 อยู่ที่ 5.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 34% QoQ (+5% YoY) ขับเคลื่อนด้วยรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ (NII) ของแบงก์ใหญ่รวมถึงค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลงตามฤดูกาล อีกทั้ง Credit Cost ของ KBANK ต่ำลง จากฐานสูงงวดก่อน
หากกำไรสุทธิกลุ่มฯ Q1/66 เป็นไปตามคาด จะคิดเป็นสัดส่วนราว 25% ของประมาณการกำไรกลุ่มฯ ของฝ่ายวิจัยและ Bloomberg Consensus (ณ 6 เม.ย. 66) ปี 66 บ่งชี้โอกาสในการ Upgrade Earning อย่างมีนัยฯ ต่ำ มองว่ากรณีที่จะมี Upgrade Earning กำไรสุทธิ Q1/66 อาจจะต้องคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของคาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี
อัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยอยู่ที่ 1.75% ถือเป็นระดับเดียวกับต้นปี 62 ขณะที่ CPI และ PPI มี.ค.66 ลดลง MoM จึงคาดใกล้ถึงปลายทางดอกเบี้ยขาขึ้นไทย แต่อัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยไม่ได้ขึ้นสูงเท่าอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศ คาดดอกเบี้ยไทยยังไม่กลับทิศ ทางพื้นฐานบวกต่อ NII ปี 66 ของแบงก์ใหญ่
"เท่าตลาด" จาก Regulatory Risk และ Macro Risk แต่ด้วย PBV ซื้อขายไม่แพงที่ 0.67 เท่า ถือว่าสมเหตุสมผล โดยยังให้น้ำหนักไปที่คุณภาพสินทรัพย์สำหรับแบงก์ใหญ่ เรียงดังนี้ BBL(FV@B174) > KTB(FV@B20.3) > SCB(FV@B132) > KBANK(FV@B159) ส่วนแบงก์เล็กเลือก TISCO(FV@B108) > KKP(FV@B77)
ขณะที่ บล.หยวนต้า ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ภาพรวมของกำไรสุทธิกลุ่มธนาคารในไตรมาส 1/66 คาดอยู่ที่ 45,055 ล้านบาท โต 1.9% YoY และ 36.1% QoQ หนุนจากการตั้งสำรองที่ผ่อนคลายลงมาก, รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่ขยายตัวต่อเนื่องหลัง NIM ปรับขึ้นได้ดี และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง
เราคาดธนาคารใหญ่จะมีอัตราโตของกำไรเด่นกว่าธนาคารขนาดกลาง/เล็ก เพราะได้ประโยชน์จากการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้มากกว่า โดยคาด SCB กำไรสุทธิ 10,072 ล้านบาท +0.3%YoY, +41.0%Q0Q และ KBANK คาดกำไรสุทธิ 9,275 ล้านบาท -17.3%YoY,+190.7%Q0Q จะมีกำไรฟื้นตัวแรง Q0Q จากฐานต่ำ พร้อมคาดการตั้งสำรองจะลดลง
ส่วนธนาคารที่มี Momentum เติบโตเด่นทั้ง YoY และ QoQ คือ BBL คาดกำไรสุทธิ 8,848 ล้านบาท +24.3%YoY, +16.9% QoQ หลังผ่านพ้นการ Mark to Market เงินลงทุนไปมาก และการตั้งสำรองเริ่มผ่อนคลายลง
ให้น้ำหนักลงทุนหุ้นธนาคาร "มากกว่าตลาด" หนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและ Valuation ที่ยังไม่แพง แนะนำ BBL ราคาเป้าหมายที่ 190 บาท เป็น Top Pick ของกลุ่ม จากการเติบโตของผลดำเนินงานที่แข็งแรง และคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีกว่าธนาคารใหญ่รายอื่นกลุ่มแบงก์ ให้น้ำหนักเท่าตลาด (Neutral) และคาดกำไร 1Q66 +QoQ / +YoY