บมจ.สิริซอฟต์ (SRS) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 40 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดเทคโนโลยี โดยมี บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทจะนำเงินได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้น IPO ไปใช้ดังนี้ 1.การพัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์สำหรับงานใช้ภายในองค์กร จำนวน 20 ล้านบาท 2.การสรรหาและพัฒนาบุคคลากรในการพัฒนาระบบหรือซอฟต์แวร์ รวมถึงการขยายพื้นที่สำนักงานเพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ จำนวน 280 ล้านบาท และ 3.ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ
SRS ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับองค์กร ด้วยความเชี่ยวชาญในการออกแบบ พัฒนา และดูแลรักษาระบบ ผ่านแนวทางการทำงานแบบ DevOps (Development & Operations) และการพัฒนาระบบหรือซอฟต์แวร์ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Microservices โดยบริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญไม่กี่รายในประเทศไทย ที่เริ่มใช้การพัฒนาระบบหรือซอฟต์แวร์โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ Microservices พร้อมด้วยประสบการณ์และทีมงานผู้เชี่ยวชาญในด้านการให้บริการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์มากว่า 7 ปี
บริษัทเป็นพันธมิตรกับเจ้าของซอฟต์แวร์ (License) หรือผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น (1) Red Hat (2) Oracle (3) Dynatrace (4) Huawei เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทฯ จะนำซอฟต์แวร์ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยหลักสิทธิการใช้งานซอฟต์แวร์มีลักษณะสัญญาที่มีกำหนดระยะเวลา (Subscription License) และสามารถต่ออายุสัญญาได้ ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง (Recurring Income)
บริการของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ
- การบริการให้คำปรึกษาและพัฒนาระบบ
- การขายสิทธิการใช้งานซอฟต์แวร์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วง
เป้าหมายการดำเนินธุรกิจ
ระยะสั้น (1 ปี)
- มีกำไรและเติบโตตามความสามารถของบุคลากร
- พัฒนาการบริการให้มีคุณภาพ ยกระดับความพึงพอใจและการบริหารด้วยความเป็นเลิศ
- พัฒนาระบบบริหารจัดการที่ดี ด้วยระบบข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการที่มี ประสิทธิภาพ
- การบริหารจัดการงบประมาณที่มีประสิทธิภาพและมีธรรมาภิบาล
- บริหารจัดการบุคลากรให้เพียงพอ มีความรู้ ความสามารถ มีความสุขในการทำงาน มีวัฒนธรรมที่เหมาะสมรักองค์กร และภูมิใจที่กับผลงานที่ได้ส่งมอบงานให้กับลูกค้า
ระยะกลาง (3 ปี)
- มีศักยภาพและความสามารถในการรับงานได้เพิ่มมากขึ้น
- ผลิตภัณฑ์และบริการเป็นที่ตระหนักถึงของกลุ่มผู้ใช้บริการ
ระยะยาว (5 ปี)
- เป็นผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่า 20%
- ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียและสิ่งแวดล้อม
- เป็นบริษัทผู้ให้บริการ Information Technology Services รายใหญ่ของประเทศไทย
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทก่อนเสนอขาย IPO แบ่งเป็นกลุ่มนายสิริวัฒน์ ธนุรเวท ถือ 90% หลังเสนอขาย IPO สัดส่วนลดลงมาที่ 74.25% นายณัฐพล ธนาเตชะวงศ์ ก่อนเสนอขาย IPO ถือสัดส่วน 1.00% จะลดสัดส่วนมาที่ 0.75%
ผลประกอบการปี 63-65 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 72.91 ล้านบาท 187.03 ล้านบาท และ 410.81 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีอัตราการเติบโตในปี 64-65 เป็น 156.50% และ 119.65% ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิ 14.39 ล้านบาท 25.47 ล้านบาท และ 68.69 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 19.73% 13.51% และ16.67% ของรายได้รวม ตามลำดับ
ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 กลุ่มบริษัทมีสินทรัพย์รวม 311.46 ล้านบาท หนี้สินรวม241.07 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 70.39 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทย่อย หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินทุนสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองอื่นๆ