นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เปิดเผยว่า ในปี 66 สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ จะเพิ่มจำนวนฝูงบิน 7 ลำ เป็น เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ( 189 ที่นั่ง) จำนวน 4 ลำ และ เครื่องบิน 777-900ER ( 215 ที่นั่ง) จำนวน 3 ลำ จากปัจจุบันมีอยู่ 11 ลำ เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จำนวน 9 ลำ และ เครื่องบิน 777-900ER จำนวน 2 ลำ
โดยในกลางเดือนเม.ย.นี้รับมอบ 2 ลำ ปลายพ.ค. รับมอบอีก 2 ลำ และในเดือนก.ค. จะรับมอบ 3 ลำ
นางนันทพร โกมลสิทธิ์เวช ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กล่าวว่า เครื่องบินที่จะรับมอบใหม่รองรับเส้นทางบินไปจีนในหลายเมืองที่กลับมาบิน อาทิ กว่างโจว ฉางชา หนานจิง เป็นต้น โดยปัจจุบันไทยไลอ้อนแอร์บินเส้นทางไปจีนอยู่ 8-10 เมือง และยังมีอีกหลายเมืองในจีนที่อยู่ในแผน เช่น อู่ฮั่น , เซิ่นเจิ่น ,หางโจว เป็นต้น และเพิ่มความถี่เส้นทางเดิมที่บินอยู่
นอกจากนี้ยังมีแผนบินในเอเชีย ซึ่งเป็นจุดบินที่ไทยไลอ้อนแอร์เคยบิน (Resume Flight) เช่นในอินเดีย โดยไทยไลอ้อนแอร์ได้เปิดเส้นทางใหม่จากดอนเมือง-บังกาลอร์ ทำการบิน 2 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เริ่มบิน 30 เม.ย.นี้ โดยคาดว่าจะมี load factor ในช่วงแรก 60-70%
"ตอนนี้ตลาดจีนมาแรง capacity ที่เพิ่มเข้ามาก็บินไปจีนก่อน ส่วนตลาดอื่นจะพิจารณาตาม Peak Season "
อย่างไรก็ตามในปีนี้ยังไม่มีแผนบินไปญี่ปุ่น จากก่อนโควิด บินไป 4 เมือง เพราะไม่มีเครื่องบินเพียงพอรองรับตลาดญี่ปุ่น ซึ่งต้องใช้เครื่องบินขนาดลำตัวกว้างอย่างแอร์บัส A330. ซึ่งการรับเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ในแผนระยะยาวของไทยไลอ้อนแอร์ ขณะที่ตลาดจีนมีดีมานด์ชัดเจนกว่า
ทั้งนี้ ไทยไลอ้อนแอร์ จะเพิ่มจำนวนฝูงบินเท่ากับก่อนโควิดที่ 35 ลำ ภายในอีก 3 ปี หรือภายในปี 68 ตามการฟื้นตัวของธุรกิจสายการบิน
ปัจจุบันไทยไลอ้อนแอร์ มีเส้นทางบินในประเทศ 14 เส้นทาง ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงรายพิผาณุโลก อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น สุราษฎรธานี กระบี่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ตรัง นครศรีธรรมราช อุดรธานี-หาดใหญ่ และ อู่ตะเภา-เชียงใหม่ ส่วนเส้นทางต่างประเทศ ได้แก่ มุมไบ จาการ์ตา ไทเป สิงคโปร์ กาฐมาณฑุ
นางนันทพร กล่าวว่าในปี66 คาดว่าจะมีผู้โดยสารอย่างน้อย 5 ล้านคน ที่เป็นผู้โดยสารไทย 60-70% และผู้โดยสารต่างชาติ 30-40% โดยในไตรมาสแรก ปี 66 มีจำนวนราว 9 แสนคน เพิ่มขึ้น 30% จากไตรมาส 4/65 โดยมีจำนวนผู้โดยสารต่างชาติสูงขึ้น 12-15% โดยอัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ย 75%
และในไตรมาส 2/66 คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 1 ล้านคน โดยคาดว่าผู้โดยสารต่างชาติโต 20% โดยเส้นทางในประเทศคาดมี load factor เกินกว่า 80% ส่วนเส้นทางต่างประเทศมี load factor 75%
โดยเส้นทางในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ load factor ถึง 80-85% ราคาตั๋วเฉลี่ย 1,500 บาท/เที่ยว ส่วนเส้นทางสิงคโปร์ และไทเป ก็ขึ้นมา 70%ในช่วงสงกรานต์นี้ ราคาตั๋วเฉลี่ยมากกว่า 3,000 บาท/เที่ยว อย่างไรก็ดี เส้นทางเชียงใหม่เชียงราย ได้รับผลกระทบบ้างจากฝุ่น PM2.5 ซึ่งไทยไลอ้อนแอร์เพิ่มเที่ยวบินพิเศษน้อยลง
ทั้งนี้ปัจจุบัน ไทยไลอ้อนแอร์มีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ 25-30% โดยเป็นอันดับ 2 ในเส้นทางภาคใต้ และ อันดับ3 ในเส้นทางภาคอีสาน
นางนันทพร คาดว่า แนวโน้มธุรกิจและผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะจะมีจำนวนที่นั่ง (capacity) เพิ่มขึ้น และจะมีการกระตุ้นการตลาดมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามมามากในช่วงครึ่งปีหลัง จึงมีโอกาสที่ปีนี้จะขาดทุนลดลง และอาจมีกำไร
ด้านนานธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านการตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี จนถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเฉลี่ยเดือนละ 2 ล้านคน จึงคาดว่าสิ้นเดือนเม.ย.จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 8 ล้านคน จากขณะนี้มีอยู่ 7 ล้านคน ทั้งนี้จากที่ ททท.ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ 25 ล้านคนโดยเป็นนักท่องเที่ยวจีน จำนวนอย่างน้อย 5 ล้านคน นักท่องเที่ยวมาเลเซียอย่างน้อย 3.5 ล้านคน ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค.- 9 เม.ย. นักท่องเที่ยวจีน 517,242 คน
ททท.คาดว่าปีนี้ตลาดท่องเที่ยวไทยยังพึ่งพิงการเดินทางเข้ามาจากประเทศในเอเชีย โดยมีผู้เล่นสำคัญคือจีน ดังนั้นในวันที่ 17-19 เม.ย. นี้ ททท.มีแผนพาเอกชนไปโปรโมทในตลาดจีนที่ ปักกิ่ง หนานจิง ฉงชิ่ง จากก่อนหน้าเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ และเฉิงตู