SET ปิดวันนี้ที่ 1,558.36 จุด ลดลง 6.74 จุด (-0.43%) มูลค่าการซื้อขาย 57,649.47 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่องจากวานนี้ โดยทำจุดต่ำสุดที่ 1,549.64 จุด และทำจุดสูงสุดที่ 1,572.43 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 471 หลักทรัพย์ ลดลง 962 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 433 หลักทรัพย์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ที่ยังคงมีความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง และเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอย และรอลุ้นผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งในไทยและสหรัฐ ดังนั้นจึงเป็นช่วง Wait&see ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างประเทศเข้า short SET50 ติดต่อกัน 3 วันแล้ววันละกว่า 1 หมื่นสัญญา ยิ่งกดดันตลาดภาพรวม
ด้านเทคนิคดัชนี SET ก็หลุดแนวรับมาตลอด 1,580, 1,570 และล่าสุดก็หลุดแนวรับ 1,550 จุด ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้าซื้อ แต่เมื่อมองในเชิงพื้นฐานแล้ว ราคาลงมาถูก มองว่าเป็นจังหวะซื้อ อยู่ในโซนเข้าสะสมได้
แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าตลาดน่าจะรีบาวด์ หลังปรับตัวลงไปมากแล้ว โดยให้แนวต้านที่ 1,570, 1,580 จุด แนวรับที่ 1,540, 1,530 จุด
นอกจากนี้แนะให้ติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า ได้แก่ GDP สหรัฐไตรมาส 1/66 , GDP ยุโรป, การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รวมถึงการประกาศงบไตรมาส 1/66 ของบริษัทจดทะเบียนไทย
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,690.92 ล้านบาท ปิดที่ 128.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 3,211.89 ล้านบาท ปิดที่ 18.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,867.01 ล้านบาท ปิดที่ 103.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 2,652.91 ล้านบาท ปิดที่ 71.00 บาท ลดลง 1.75 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,441.01 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท