(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์คล้ายภูมิภาค ไร้ปัจจัยหนุน-รอดู GDP สหรัฐฯ-ยุโรป

ส่วนบ้านเรายังคงติดตามการทยอยประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียน และตัวเลขส่งออกของไทยในช่วงกลางสัปดาห์นี้

ให้แนวรับไว้ที่ 1,550 จุด และแนวต้าน 1,570 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,808.96 จุด เพิ่มขึ้น 22.34 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,133.52 จุด เพิ่มขึ้น 3.73 จุด หรือ +0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,072.46 จุด เพิ่มขึ้น 12.90 จุด หรือ +0.11%
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 28,631.78 จุด เพิ่มขึ้น 67.41 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,049.87 จุด ลดลง 25.86 จุด หรือ -0.12% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,300.81 จุด ลดลง 0.45 จุด หรือ -0.01%
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 เม.ย.66) 1,558.36 จุด ลดลง 6.74 จุด (-0.43%) มูลค่าการซื้อขาย 57,649.47 ล้านบาท
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,021.33 ลบ. เมื่อวันที่ 21 เม.ย.66
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.(21 เม.ย.) เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 77.87 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 5.5% ในรอบสัปดาห์นี้
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 เม.ย.) อยู่ที่ 2.54 เหรียญ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 34.40 ตลาดรอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง ให้กรอบวันนี้ 34.30-34.55
• กนอ.เดินหน้าเจาะกลุ่มนักลงทุนจีนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเมืองหม่าอันซาน ต่อยอด MOU ไทยจีน หลังการประชุมเอเปก 2565 พร้อมเสนอ 3 ทางเลือกเพื่อการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม
• "คลัง" ตามติดนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองอย่างใกล้ชิด คำนวณเม็ดเงินที่ใช้หลังเข้ามานั่งบริหารประเทศ ชี้รัฐบาลใหม่ยังสามารถกู้เงินมาใช้จ่ายเพิ่มได้อีก 1.5 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันหนี้สาธารณะอยู่ที่ 10.72 ล้านล้านบาท หรือ 61.13% ของจีดีพี ยังมีเพดานกู้ได้เพิ่มถึง 70% ของจีดีพี
• ธนาคารพาณิชย์ผลักดันแผนรื้อโครงสร้าง "ค่าธรรมเนียม" การทำธุรกรรมเงินสดผ่านสาขาและเครื่องเอทีเอ็มให้สะท้อนต้นทุน แจงธนาคารแบกต้นทุนการจัดการเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มกว่าหมื่นล้านบาท สวนทางค่าฟีบัตรเอทีเอ็ม-เดบิตลดฮวบต่อเนื่อง
• "กลุ่มทุนเจ้าสัวไทย" ชิงขุมทรัพย์ "เวียดนาม" ปักหมุดบ้านหลังที่สอง "เซ็นทรัล" บุกหนักค้าปลีกระดมทุกธุรกิจในไทย ขยายอาณาจักรสร้างน่านน้ำใหม่ ซุ่มเจรจาบิ๊กดีลแสนล้านห้างเบอร์ 1 "วินคอม รีเทล" ลุยโมเดิร์นเทรดรับกำลังซื้อ100 ล้านคน "เจ้าสัวเจริญ" ชู "บีเจซี" หัวหอกหลักซินเนอร์ยี กิจการในเครือลุย "บีสมาร์ท-เอ็มเอ็ม เมก้า มาร์เก็ต" ด้าน "ซีพี" ชิมลางแม็คโครฟู้ดเซอร์วิส-ไก่ย่าง5ดาว

*หุ้นเด่นวันนี้

• BBL (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 164.00 บาท กำไรไตรมาส 1/66 +42%YoY, QoQ รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตแม้จะอยู่ใน Low Season ส่วนไตรมาส 2/66 การปล่อยสินเชื่อในทุก Segment จะเร่งตัวขึ้นและได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น คุณภาพของสินเชื่อดีกว่ากลุ่ม (NPL ณ ไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 3.1%) ขณะที่ Valuation ของหุ้น BBL ค่อนข้าง Laggard กลุ่มโดย Trade ที่ PBV เพียง 0.58X เทียบกับกับ -1.25SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2566-2567 ที่ 3.86 หมื่น ลบ. และ 4.18 หมื่น ลบ. +32%YoY และ +8.3%YoY ตามลำดับ
• CPALL (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 72.50 บาท เบื้องต้น ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 3,588 ลบ. (+3.91% YoY, +14.35%QoQ) ยังสามารถฟื้นตัวได้แม้จะมีปัจจัยกดดันจากค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค และต้นทุนทางการเงิน แต่เราคาดว่าการเติบโตที่ดีของรายได้ PostCovid-19 และการกลับมาของนักท่องเที่ยวจะ outweight ปัจจัยลบในด้านค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้ ขณะที่ในระยะถัดไป เราคาดว่าการฟื้นตัวของกำไรจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องจาก 1.การ refinance ของ MAKRO 2.การใช้จ่ายที่คาดว่าจะสูงขึ้นช่วงสงกรานต์และการเลือกตั้ง 3.อัตราค่าไฟฟ้าft ภาคธุรกิจที่ลดลงในงวดพ.ค. - ส.ค.66 ปัจจุบัน เราประมาณการกำไรสุทธิของปี66 และ 67 อยู่ที่ 17,088 ลบ.(+28.75%YoY) และ 19,327 ลบ.(+13.11%YoY)