นายสัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) (MGC) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทได้รับสิทธิจำหน่ายเรือชั้นนำสัญชาติอเมริกัน Chris-Craft แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เอ็มจีซี มารีน แอนด์ ชาร์เตอร์ (เอเชีย) จำกัด (MGC Marine) ก่อนหน้านี้บริษัทประสบความสำเร็จกับการเป็นผู้จำหน่ายเรือยอชท์ อะซิมุท (AZIMUT) อย่างเป็นทางการในประเทศไทยมานานกว่า 8 ปี
หลังจากได้เริ่มจำหน่ายเรือ Chris-Craft ตั้งแต่ปี 2565 ล่าสุดได้เปิดตัวโชว์รูม พร้อมศูนย์บริการครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ที่ Riverdale Marina จังหวัดปทุมธานี เพื่อขยายฐานผลิตภัณฑ์และบริการในกลุ่มมารีน เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังในการซื้อสูง (High Net Worth) และกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำ รวมถึงฐานลูกค้าเดิมที่เป็นเจ้าของเรือยอชท์ และต้องการเรือสันทนาการเพิ่ม เรือ Chris-Craft มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 149 ปี โดยมีจุดเด่นด้านความหรูหรา พร้อมคุณภาพและเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอิสระ ผ่านการล่องแม่น้ำไปยังสถานที่ต่างๆ โดยมีให้เลือกหลากหลายรุ่น สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่มีอย่างหลากหลาย โดย Chris-Craft ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมจำหน่ายเรือ 3 รุ่นหลัก คือ Launch Series, Catalina Series และ Calypso Series มีรุ่นย่อยแบ่งตามขนาดและลักษณะของเรือ
Launch Series เป็นเรือดีไซน์คลาสสิก เรียกว่า ?Bow Rider? แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย คือ Launch และ Launch GT ที่ติดตั้งหลังคาจากโรงงาน มาพร้อมสองทางเลือกของเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ 6.2 ลิตร 300 แรงม้า ทั้งแบบ Mercruiser (inboard-เครื่องยนต์อยู่ในตัวเรือ) และ Mercury (outboard-เครื่องยนต์เกาะท้าย)
Catalina Series เป็นเรือแบบ Dual Console ที่ยกตำแหน่งผู้ขับให้สูงขึ้น ส่งผลดีต่อทัศนวิสัย เหมาะสำหรับการเดินทางแบบครอบครัว ปิดท้ายด้วย Calypso Series ที่เป็นเรือแบบ Center Console ตำแหน่งผู้ขับอยู่กลางลำเรือ จึงมีทางเดินด้านข้างสองฝั่ง ผู้โดยสารสามารถเดินรอบเรือได้สะดวก
ทั้ง Catalina Series และ Calypso Series ใช้เครื่องยนต์ Mercury ทั้งหมด นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังมีบริการอย่างครบวงจร ทั้งก่อนและหลังการขาย รวมถึง ?Boat Ownership Program? ที่ช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของเรือ Chris-Craft ได้ง่ายขึ้น อาทิ สินเชื่อและโปรแกรมเช่าซื้อ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำที่แข็งแกร่ง
นายสัณหวุฒิ กล่าวว่า ตลาดเรือทั่วโลก มีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 7 ต่อปี โดยมีตลาดอเมริกาเหนือเป็นตลาดที่ใหญ่สุด ขณะที่เอเชียแปซิฟิกมาเป็นอันดับ 3 นำโดยญี่ปุ่น ออสเตรเลีย จีน และตลาดสำคัญอย่างอาเซียน โดยตลาดเรือเพื่อสันทนาการ มีการเติบโตสูงหลังจากวิกฤติโควิด-19 ผ่านพ้นไป สะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
ธุรกิจมารีน เป็นตลาดบลูโอเชียน ที่ยังมีโอกาสในการเติบโตสูง ด้วยความพร้อมในระบบนิเวศทางธุรกิจที่ครบวงจรของ MGC-ASIA ผสานกับประสบการณ์ในการดูแลลูกค้ามาอย่างยาวนาน พร้อมพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง อาทิ ริเวอร์เดล มารีน่า ปทุมธานี และ โอเชียน มารีน่า พัทยา ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมเรือเพื่อสันทนาการและท่องเที่ยว โดยทางบริษัทฯ พร้อมสร้างการเติบโต เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในประเทศไทยและอาเซียน ภายใต้ MGC-ASIA Lifestyle Mobility Ecosystem
โครงการ ริเวอร์เดล มารีน่า สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมสันทนาการทางน้ำ พร้อมทีมงานมืออาชีพ ที่ช่วยนำเรือลง-ขึ้นจากแม่น้ำ และบริการจัดเก็บเรือด้วยเครื่องมือครบครัน นอกเหนือจากนั้นทางโครงการยังมี มารีน่า พลาซ่า เป็นศูนย์กลางให้บริการกิจกรรมทางน้ำอย่างครบวงจรแห่งแรก ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ใหม่ของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวทางน้ำ โรงแรม สนามกอล์ฟ โครงการบ้านจัดสรรหรู และห้างสรรพสินค้า ทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ พร้อมสถานที่รองรับการจัดงานริมแม่น้ำในรูปแบบ Outdoor Destination ที่ใหญ่สุดบนแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยพื้นที่เริ่มต้นที่ 1,000 ตารางเมตร
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทได้ขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร ครอบคลุมสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ สำหรับยานยนต์ในระดับลักชัวรี่ ทั้งรถยนต์ บิ๊กไบค์ เรือยอชท์ และเรือสันทนาการ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ผ่านการร่วมทุนกับ บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) ในการจัดตั้งกิจการร่วมค้าภายใต้ชื่อ ?อัลฟา เอกซ์? เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า และรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางเรือในอนาคต โดยจัดโปรแกรมเช่าซื้อพิเศษ สำหรับ Chris-Craft และเป็นที่ปรึกษาในการบริหารการเงินสำหรับลูกค้า ตลอดจนการรับประกันภัยเรือจากโบรกเกอร์ระดับโลกอย่าง ?ฮาวเด้น แมกซี่? บริการดูแลเรือพร้อมจัดเก็บ จาก ?ริเวอร์เดล มารีน่า? และอื่นๆ
"ภูมิภาคอาเซียน เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุด จากการมีประชากรรวมกว่า 700 ล้านคน และมีพื้นที่ชายฝั่งยาวกว่า 170,000 กิโลเมตร แวดล้อมไปด้วยแม่น้ำสายสำคัญจำนวนมาก เอื้อต่อการท่องเที่ยวทางน้ำ กีฬาทางน้ำ และกิจกรรมสันทนาการที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งธุรกิจมารีนยังนับเป็นตลาดบลูโอเชียนที่มีศักยภาพเติบโตสูง เราจึงขยายระบบนิเวศทางธุรกิจ ไปสู่ธุรกิจมารีน พร้อมขยายไปสู่ตลาดระดับภูมิภาค ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ"