ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นแบงค์ ถ่วงฟุตซี่ปิดลบ 18.3 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีข่าวว่าธนาคารรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ (อาร์บีเอส) ออกหุ้นเพื่อระดมทุนเป็นวงเงิน 1.2 หมื่นล้านปอนด์และปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี 5.9 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กและราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 18.3 จุด แตะระดับ 6,034.7 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,007.5-6,072.0 จุด
          นายเดวิด ไฟน์เบิร์ก นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า "การที่ธนาคารอาร์บีเอสประกาศลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีทำให้เกิดความกังวลว่า ธุรกิจการธนาคารในอังกฤษอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพรม์ไม่น้อยกว่าในสหรัฐ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบทำให้เกิดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ"
          เมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 115.95 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.52 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ดีดขึ้น 11 เพนซ์ ปิดที่ 732 เพนซ์ หุ้นเครน เอนเนอร์จี ดีดขึ้น 35 เพนซ์ ปิดที่ 576 เพนซ์ หุ้นบีพีพุ่งขึ้น 2 เพนซ์ ปิดที่ 3050 เพนซ์ 
          หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากธนาคารอาร์บีเอสซึ่งเป็นสถาบันการเงินรายใหญ่อันดับ 2 ของอังกฤษ ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า ธนาคารมีแผนที่จะออกหุ้นใหม่เพื่อระดมทุนมูลค่า 1.2 หมื่นล้านปอนด์ และปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี 5.9 พันล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นผลมาจากการตั้งสำรองหนี้สูญ นอกจากนี้ อาร์บีเอสประกาศว่าจะลดเงินปันผลประจำปี 2551
          ทั้งนี้ หุ้นอาร์บีเอสดิ่งลง 14 เพนซ์ ปิดที่ 358 เพนซ์ หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สร่วงลง 17 เพนซ์ ปิดที่ 461 เพนซ์ และหุ้นธนาคาร HBOS รูดลง 20 เพนซ์ ปิดที่ 520 เพนซ์