นางสาวหลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ (GLOCON) กล่าวว่า เป้าหมายภายในเดือนพ.ค. 66 หลังย้ายโรงงานเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิต ในส่วนสินค้าที่เสียหายจากโรงงานในช่วงปี 65 ได้ถูกปรับและเคลียร์สินค้าล็อตเก่าออกทั้งหมด ปัจจุบันโรงงานได้บริหารจัดการเดินหน้าอย่างเต็มที่สำหรับการผลิต ถึงช่วงเวลาที่สามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้
ด้านของธุรกิจอาหารแช่แข็ง เดินหน้าตั้งทีม GLOCON CHINA ลุยตลาดส่งออก โดยเริ่มจากประเทศจีนเป็นที่แรก ปรับแผนขยายตลาดพัฒนาเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง และในส่วนแพคเกจจิ้ง ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจสำคัญของ GLOCON มุ่งเน้นการผลิตแพคเกจจิ้งตอบโจทย์เทรนด์รักโลกด้วยบรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย โดยพัฒนาให้เหมาะกับทั้งผู้ขายและผู้ใช้งานไปพร้อมๆกัน ในขณะที่ต้นทุนลดลง แต่กลับสร้างผลประกอบการและกำไรให้กับบริษัทได้สูงขึ้น
ขณะเดียวกันแบรนด์อาหารคู่ใจคนไทย "ลูกชิ้นทิพย์" ได้ขยายสาขาเพิ่ม ด้วยการจับมือทำ MOU ร่วมกับปั๊มน้ำมันบางจาก และ ร้านอินทนิล เพื่อขยายสาขาให้กระจายไปทั่วประเทศ เอาใจผู้บริโภคที่ชอบทานลูกชิ้นหมูแท้แสนอร่อย ให้สามารถหาซื้อได้สะดวกขึ้น ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าขยายบูธร้านลูกชิ้นทิพย์ไว้ราวๆ 500-1,000 บูธ และด้วยอานิสงส์จากราคาหมูที่ลดลงส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนที่ลดลงตามไปด้วย ในขณะที่สามารถเสริฟความอร่อยได้เช่นเดิม และเร็วๆนี้มีแผนการส่งลูกชิ้นทิพย์เข้าวางขายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 อีกด้วย
ด้านธุรกิจแปรรูปผลไม้แห้ง (Dried fruit) เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ได้รับการรับรองและการตรวจสอบ BRC ซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับสากลและสามารถส่งออกได้ โดยปี 66 จะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ "วีว่า (Viva)" ให้เป็นขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่ติดใจจนวางไม่ลง
"ปีนี้ GLOCON จะแข็งแกร่งขึ้น เราได้ปรับโครงสร้างธุรกิจให้รัดกุมมากขึ้น ลดค่าใช้จ่าย วางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆให้เป็นที่ยอมรับและต้องการจากลูกค้าอย่างมาก โดยภาพรวมเราเห็นถึงผลตอบรับที่ดีของทุกธุรกิจจากทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งเราตั้งเป้าสร้างรายได้ไว้ราว 3 พันล้านบาท เพื่อผลกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นตามสัดส่วน และในปี 66 ผลงานของ GLOCON จะกลับมามีสีสันและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างแน่นอน" นางสาวหลุยส์ กล่าว