นายถิรพันธุ์ สรรพกิจ รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ได้ร่วมมือกับ Nasdaq ซึ่งเป็นผู้นำในระบบซื้อขายสำหรับตลาดทุนและตลาดอนุพันธ์ ในการพัฒนาระบบซื้อขายใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดที่เป็นมาตรฐานสากล มีประสิทธิภาพสูงในการจัดการคำสั่งซื้อขายได้รวดเร็วขึ้น สามารถรองรับปริมาณธุรกรรมที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต และพร้อมรองรับผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่หลากหลายในรูปแบบใหม่ๆ ทั้งตลาดทุนและตลาดอนุพันธ์ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกเหนือจากการเปลี่ยนระบบซื้อขายใหม่ ตลาดหลักทรัพย์และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้เปลี่ยนระบบเผยแพร่ข้อมูลซื้อขาย (Market Data System) ระบบงานกำกับการซื้อขาย (Market Surveillance System) ในคราวเดียวกัน โดยได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและการประมวลผลข้อมูลที่เป็นสากลและสอดคล้องกับระบบซื้อขายใหม่ ซึ่งจะสามารถเผยแพร่ข้อมูลการซื้อขายไปยังระบบของสมาชิกและผู้ให้บริการข้อมูลอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยมาตรฐานที่เป็นสากล รวมถึงยกระดับเครื่องมือและโปรแกรมที่ใช้ในการตรวจสอบเพื่อให้สามารถวิเคราะห์ความผิดปกติในการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้นตามลำดับ
สำหรับปรับการแสดง Bid/Offer เป็น 10 ระดับราคา จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์กับผู้ลงทุน เนื่องจากช่วยเพิ่มความโปร่งใส นักลงทุนมีการตัดสินใจลงทุนดีขึ้น จากมีข้อมูลเพิ่มขึ้น และเป็นไปตามเทรนของตลาดหลักทรัพย์ทั่วไป ซึ่ง SET ก็จะเทียบเคียงไปกับภูมิภาคนี้
"เมื่อเราเห็นดีมานด์ ซัพพลาย เราก็สามารถวางตัวได้ว่าจะซื้อหรือขาย เช่น เราเห็นเทรนขาลงมาเยอะ เราก็อาจจะต้องตั้ง Stop Loos ไว้ได้ ซึ่งเป็นการใช้ในการประกอบการตัดสินใจ และใช้กลยุทธ์ในการส่งออเดอร์ด้วย" รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลท.กล่าว
*คุณสมบัติเด่นของระบบซื้อขายใหม่
- มีมาตรฐานการต่อเชื่อมที่เป็นมาตรฐานสากลทั้ง ITCH/OUCH Protocol และ FIX Standard Protocol ซึ่งใช้ในตลาดทุนและตลาดอนุพันธ์ชั้นนำทั่วโลก ช่วยเพิ่มโอกาสให้เกิดการเข้าถึงโดยนักลงทุนจากตลาดต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
- ด้วยโครงสร้างระบบซื้อขายใหม่ที่มีความยืดหยุ่นและเป็นสากล ช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สามารถเพิ่มสินค้าได้หลากหลายตามที่มีการซื้อขายในตลาดต่างประเทศชั้นนำ โดยสามารถดำเนินการด้านระบบได้รวดเร็วขึ้น
- เพิ่มความละเอียดในการเผยแพร่ข้อมูลระดับราคา Bid/Offer ของหลักทรัพย์ในตลาด SET และ mai จาก 5 ระดับราคา เป็น 10 ระดับราคา เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อขายได้ดียิ่งขึ้น
- เพิ่มความละเอียด timestamp ของคำสั่งซื้อขายและเวลาที่เกิดการจับคู่ซื้อขายในระดับ nanosecond เทียบเท่าตลาดต่างประเทศชั้นนำ
- เพิ่มฟังก์ชันอำนวยความสะดวกให้กับบริษัทสมาชิก เช่น Self-match Prevention ช่วยป้องกันการจับคู่กันเองของคำสั่งซื้อขายจากลูกค้าราย/กลุ่มเดียวกัน และ Pre-Trade Risk Management เป็นทางเลือกเพิ่มเติมในการบริหารความเสี่ยงของบริษัทสมาชิก
*เกณฑ์การซื้อขายสำคัญของ SET ที่มีการปรับปรุง
- ปรับการคำนวณราคาเปิด-ราคาปิด
- การคำนวณยังเป็นไปตามหลักการเดิม คือ ระบบคำนวณด้วยวิธีจับคู่ซื้อขายในคราวเดียว (Auction)
- โดยราคาเปิด-ปิดอาจอยู่นอกกรอบ Ceiling &Floor (C&F) ได้ แต่ไม่เกิน 1 ช่วงราคา (Tick)
- ปรับ Ceiling & Floor ของหลักทรัพย์ -F ให้มี Ceiling & Floor +/- 60% ของราคาอ้างอิงในทุกวิธีการซื้อขาย (เดิม กำหนด C&F +- 30% ของราคาอ้างอิง สำหรับการซื้อขายรายใหญ่หุ้น -F
- ยกเลิกการซื้อขายหน่วยย่อย (Old Lot) ของ DW
- ปรับประเภทคำสั่งซื้อขาย เช่น เพิ่มคำสั่ง Good till Cancel (GTC) และ Good till Date (GTD), ปรับปรุง Iceberg Order เป็นต้น
- เพิ่มเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย P (Pause) โดยจะใช้กับหลักทรัพย์ที่ SET กำหนดให้เข้ามาตาการกำกับการซื้อขายระดับ 3 เพื่อให้เกิดความชัดเจนแก่ผู้ลงทุน
- ปรับการแสดง Bid/Offer เป็น 10 ระดับราคา (ขึ้นอยู่กับการแสดงหน้าจอของแต่ละ Broker ด้วย) ข้อนี้ไม่กระทบเกณฑ์ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์กับผู้ลงทุน
*เกณฑ์ซื้อขายสำคัญของ TFEX ที่มีการปรับปรุง
- ปรับการคำนวณราคาเปิด-ราคาปิด ตามกลไกการทำงานหลัก (Core Algorithm) ในระบบซื้อขายใหม่
- ปรับประเภทและเงื่อนไขคำสั่งซื้อขาย เช่น เพิ่ม Session State Order, ปรับอายุของคำสั่ง GTC และ GTD ที่อยู่ในระบบซื้อขาย เป็นต้น
- ปรับปรุงแนวทางหยุดการซื้อขาย Circuit Breaker รายสินค้าโดยหยุดซื้อขาย 2 นาที ให้สอดคล้องตาม Global Practice ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถปรับสถานะได้ทันต่อสถานการณ์มากขึ้น และปรับใช้เป็นแนวทางเดียวกันสำหรับสินค้ากลุ่ม Non Equity Derivatives
- ปรับช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำของ Block Trade สินค้า Sector Futures เป็นทศนิยมราคา 4 ตำแหน่ง (0.0001 จุด)