SABUY เปิดภาคบ่ายเด้ง 3.68% มาที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท มูลค่าซื้อขาย 110.75 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.30 น. โดยเปิดตลาดที่ 9.20 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 9.85 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 9.20 บาท
บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้น (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน ภายในวงเงินไม่เกิน 1,090,000,000 บาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 87,200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกิน 5% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยวิธีจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ กำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.-14 ก.ค.66 บริษัทต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
ราคาซื้อคืนจะไม่เกินกว่า 115% ของราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้าวันที่ทำรายการซื้อหุ้นคืน ทั้งนี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา ราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันทำการก่อนวันที่บริษัทเปิดเผยข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.66 ถึง 28 เม.ย.66 เท่ากับ 11.15 บาทต่อหุ้น
สำหรับวัตถุประสงค์ในการซื้อหุ้นคืน
1. เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อัตรากำไรสุทธิ (EPS) และเพิ่มมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share)
2. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น โดยบริษัทได้นำความเห็นของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (Consensus) ที่ได้ประเมินมูลค่าบริษัทได้ไว้ มาประกอบการพิจารณาแบบระมัดระวังที่สุด ซึ่งเงินทุนที่นำมาใช้ในการซื้อหุ้น เรามี Cash Flow อยู่แล้ว ซึ่งเป็นเงินคนละส่วนกับ การลงทุนใน AS และ Singer ซึ่งบริษัทฯ ได้คำนึงถึงการบริหารสภาพคล่อง ช่วงเวลาในการซื้อคืนที่เหมาะสมแล้ว
3. เพื่อเป็นการบริหารสถานะการเงินโดยรวมของบริษัทให้เกิดประโยชน์
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY เปิดเผยว่า บริษัทมีสภาพคล่องสูงและมีกำไรสะสมสูงถึง 2,040,000,000 บาท
ภายหลังซื้อหุ้นคืน ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นอยู่จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากหุ้นที่บริษัทซื้อคืนกลับไปจะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล รวมถึงอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings per Share) จะสูงขึ้น เนื่องจากจำนวนหุ้นที่จะนำมาคำนวณลดลง จึงทำให้ผลประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายจะได้รับเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นแล้ว สำหรับผลต่อภาพรวมบริษัท คือ จะทำให้บริษัทจะมีสินทรัพย์สภาพคล่อง และมูลค่าทางบัญชีของส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีสภาพคล่องอย่างเพียงพอ และสำหรับการลงทุนอื่นๆที่ได้วางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็น AS หรือ Singer ทางบริษัทได้มีการจัดการบริหารเงินทุนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนธุรกิจ การลงทุน และการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด