SET ปิดวันนี้ที่ 1,528.43 จุด ลดลง 0.69 จุด (-0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 39,979.71 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีไหลลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,517.98 จุด และทำจุดสูงสุดที่ 1,535.35 จุด โดยช่วงบ่ายร่วงไปถึง 10 จุด หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,520 จุด ก่อนจะดีดกลับมาลดช่วงลบลงตามแรงซื้อกลับหุ้นใหญ่
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 378 หลักทรัพย์ ลดลง 982 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 439 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงต่อและอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากสัปดาห์นี้ตลาดบ้านเราจะเปิดเทรดเพียง 2 วัน และในช่วงที่หยุดยาวจะมีอีเว้นท์สำคัญในต่างประเทศ ทั้งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เป็นต้น ถือว่ามีความไม่แน่นอนสูง ทำให้นักลงทุนเลือกขายลดความเสี่ยงออกมาก่อน
นอกจากนั้น ช่วงนี้ยังเข้าใกล้วันที่ 14 พ.ค. ซึ่งเป็นเลือกตั้งใหญ่ของไทยด้วย ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนว่าพรรคการเมืองใดที่จะได้เป็นรัฐบาล โดยหากมีความชัดเจนมากขึ้นแล้วก็จะกลับมาเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยในระยะต่อไป
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ตลาดมีโอกาสซึมลงต่อ จากการลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาว ให้แนวรับไว้ที่ 1,500 จุด และแนวต้าน 1,540 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,376.70 ล้านบาท ปิดที่ 127.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,340.99 ล้านบาท ปิดที่ 76.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,275.34 ล้านบาท ปิดที่ 18.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,136.02 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,064.41 ล้านบาท ปิดที่ 31.00 บาท ราคาไม่เลี่ยนแปลง