นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม (THCOM) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการลงทุนดาวเทียมดวงใหม่ มูลค่าเงินลงทุน 15,000 ล้านบาท ยังอยู่ขั้นตอนคัดเลือกผู้ออกแบบและสร้างดาวเทียมอยู่โดยกำลังหาเทคโนโลยีที่เป็น Next Generation เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด คาดว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/66 ขณะเดียวกันบริษัทหาลูกค้าล่วงหน้าสำหรับดาวเทียมดวงใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ บริษัทมีเงินสดในมือ อยู่ประมาณ 6 พันกว่าล้านบาทในปัจจุบันซึ่งเพียงพอที่จะนำไปใช้ลงทุนดาวเทียมดวงใหม่
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THCOM กล่าวว่า บริษัทได้เปลี่ยนการดำเนินธุรกิจดาวเทียมเป็นธุรกิจ Space Tech ซึ่งเป็น New S-Cuvce ให้กับบริษัทที่จะส่งผลดีต่อผลประกอบการในระยะกลางและระยะยาว โดยบริษัทจะโฟกัส 3 Area ได้แก่
- การนำภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลจากดาวเทียมมาวิเคราะห์เป็น Solution ทั้งภาครัฐและเอกชน
- คาร์บอนเครดิต โดยจะวิเคราะห์พื้นที่เกษตรที่จะมีบทบาทในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
- ธุรกิจโดรน ซึ่งได้งานแรกกับเอไอเอส สำรวจเสามือถือเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพเสา เพื่อซ่อมบำรุง
ส่วนธุรกิจดาวเทียม LEO หรือดาวเทียมวงโคจรต่ำได้จับมือกับบริษัท โกลบอลสตาร์ จำกัดที่เป็นบริษัทระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนติดตั้งอุปกรณ์ภาคพื้นดิน (Gateway) ของระบบโกลบอลสตาร์ ในพื้นที่ของไทยคม โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในครึ่งปีหลังปี 66 แต่เริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/66 แล้ว โดยรายได้จากดาวเทียม LEO กับโกลบอลสตาร์มี 3 ทางคือรายได้จาก Gatewayซึ่งโกลบอลสตาร์จ่ายให้ THCOM เป็นค่าจ้างรายเดือน , การขายชุดอุปกรณ์ปลายทาง และค่าแอร์ไทม์ซึ่งจะแบ่งส่วนรายได้กับโกลบอลสตาร์
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทที่มีดาวเทียม LEO รายอื่นอยู่ด้วย
ขณะเดียวกันบริษัทได้ร่วมมือพันธมิตรธุรกิจที่หลากหลายมาช่วยเสริมศักยภาพ ซึ่งมีความคืบหน้าได้แก่
- ความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์กำรมหาชน) หรือสวก. โดยมุ่งส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาด้านกำรเกษตร ผ่านระบบโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดาวเทียม ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยีดาวเทียมรับรู้ระยะไกล (Remote Sensing), ระบบ IOT, เทคโนโลยี AI และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาใช้พัฒนางานวิจัยให้มีประสิทธิภำพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ประชุมเกี่ยวกับแผนควำมร่วมมือในอนาคต อาทิ การใช้ภาพถ่ายดาวเทียมในการประเมินพื้นที่และตรวจสอบผลผลิต การจัดการข้อมูลในรูปแบบดิจิทัลแพลตฟอร์ม การประกันภัยผลผลิตที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ
- ความร่วมมือกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยมีบทบาทสำคัญในการนำเทคโนโลยีสำรวจระยะไกล มาวิเคราะห์ร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence) และ ML (Machine Learning) เพื่อประเมินพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกร ด้วยการวิเคราะห์ความชื้นในดินและติดตามสภาพพื้นที่หลังจากการทำฝนเทียม ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภัยแล้ง รักษาสุขภาพและคุณภาพของดิน รวมถึงมีส่วนช่วยให้ผลผลิตของเกษตรกรมีคุณภาพ เป็นการยกระดับภาคการเกษตรให้เป็นการทำเกษตรแบบอัจฉริยะ หรือกำรทำเกษตรแบบแม่นยำ
- ความร่วมมือด้านศูนย์วิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการบินและอวกาศกองทัพอากาศ หรือ ศวอ.โดยจะร่วมมือกันวิจัยและพัฒนา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอากาศยานไร้คนขับของ ศวอ. และเทคโนโลยีกำรบินต่างๆ รวมทั้งจะร่วมมือกันวิจัยและพัฒนาดาวเทียมและเทคโนโลยีอวกาศ ตลอดจนเทคโนโลยีจรวดนำส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร รวมทั้งยังได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการบินและอวกาศ และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
นายปิยะวัฒน์ จริยเศรษฐพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) THCOM กล่าวว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเรือของ Voyager Worldwide ของญี่ปุ่นชุดแรกประมาณ 1 หมื่นลำ ในการให้บริการ NAVA ที่เป็นให้อินเตอร์เน็ตเพื่อการเดินเรือ เปิดให้บริการเมื่อเดือนที่แล้ว และกำลังเจรจาการให้บริการแก่เรือเดินสมุทรในเฟสถัดไป
นายปฐมภพ กล่าวอีกว่า ในไตรมาส 1/66 บริษัทมีกำไรจากการดดำเนินงาน (Core Profit) 131 ล้านบาท เติบโต 48% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มี 88 ล้านบาท เนื่องมาจากอัตราการให้บริการดาวไทยไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 เพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นไตรมาสอัตราการให้บริการอยู่ที่ระดับ 55% เทียบกับสิ้นปี 65 ที่ 53% และมีรายได้จากธุรกิจใหม่เริ่มเข้ามาแล้วในไตรมาสนี้ โดยเฉพาะธุรกิจดาเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ที่ได้ร่วมมือกับโกลบอลสตาร์ รวมถึงการบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนรายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 1/66 มีจำนวน 735 ล้านบาท ใกล้เคียงกับรายได้738 ล้านบาทในไตรมาส 4/65 (QoQ) แต่เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/65 (YoY) รายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น 6.5% จาก 691 ล้านบาทเนื่องจากรายได้จากการให้บริการดาวเทียมและเกี่ยวเนื่องปรับตัวสูงขึ้น