นายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/66 บริษัทมีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีปัจจัยเชิงบวกจากค่าการกลั่นที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/65 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นผลมาจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันและการขาดทุนสต๊อกน้ำมันในช่วงเวลาดังกล่าว
อนึ่ง SPRC แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/66 มีกำไรสุทธิ 1.22 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.28 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5.28 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.22 บาท
สำหรับไตรมาส 1/66 ค่าการกลั่นทางบัญชีอยู่ที่ 6.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่า 1.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาสก่อน และมีปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นอยู่ที่ 93% ของกำลังการกลั่นทั้งหมด
ค่าการกลั่นตลาดปรับตัวดีขึ้นจาก 5.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 4/65 เป็น 6.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 1/66 เป็นผลจากค่าพรีเมี่ยมน้ำมันดิบที่ลดลง และส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินกับน้ำมันดิบสูงขึ้น สาเหตุหลักมาจากการจำกัดการส่งออกน้ำมันเบนซินจากประเทศจีนและอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งในช่วงฤดูท่องเที่ยว
นายโดบริค กล่าวว่า โครงการปรับปรุงผลกำไร (Bottom Line Improvement Program - BLIP) ของเราช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพน้ำมันดิบที่เข้ากลั่น กระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ รวมถึงการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ขั้นกลาง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ SPRC มีค่าการกลั่นที่ดีขึ้นในไตรมาสแรก สิ่งเหล่านี้ทำให้มั่นใจว่าการดำเนินงานโดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพสูงสุดเช่นนี้จะสามารถมอบผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจแก่ผู้ถือหุ้นได้
ถึงแม้ว่า ในไตรมาสแรกของปี 66 นี้ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบจะปรับตัวลง แต่การเปิดพรมแดนและการผ่อนคลายมาตรการการป้องกันโควิด-19 ของประเทศจีนทำให้มั่นใจว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี วิกฤตการณ์ของสถาบันการเงินที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ อาจก่อให้เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และอาจส่งผลต่อการบริโภคและลงทุนด้านน้ำมันได้
"SPRC ยังคงมองว่าอนาคตของภาคอุตสาหกรรมในระยะยาวมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น เราเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัว และความต้องการใช้น้ำมันจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรายังคงแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในอนาคตเพื่อที่จะสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น ตลอดช่วงแผนการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ (Turnaround & Inspection - T&I) ในปี 68 นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไปสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการพัฒนาที่ยั่งยืน"