นางแคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) เปิดเผยว่า ในวันนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Onikoube ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จังหวัด Miyagi ในญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้ง 147 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญารับซื้อไฟฟ้าที่ 133 เมกะวัตต์ ด้วยอัตราค่าไฟฟ้า FiT ที่ 36 เยนต่อหน่วย ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้ว ทำให้บริษัทสามารถเริ่มรับรู้รายได้และกำไรได้ทันทีในไตรมาส 2/66 ซึ่งผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมกันนี้ประเมินว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ TSE เพิ่งจะลงนามในหนังสือบันทึกข้อตกลงรับทราบและยอมรับเงื่อนไขการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed - in Tarif (FT) โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ปี 2565-2573 จำนวน 7 โครงการ กำลังผลิตรวมกว่า 88.66 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการขนาด SPP จำนวน 2 โครงการ, โครงการ VSPP จำนวน 4 โครงการ และโครงการโซลาร์+แบตเตอรี่ จำนวน 1 โครงการ
บริษัทยังเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รอบ 2 ของ กกพ.ซึ่งมีโควตารับซื้อออกมา 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะได้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก ไม่ต่ำกว่า 150 เมกะวัตต์
ปัจจุบัน TSE มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในประเทศไทย รวมทั้งหมด 35 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 286.2 เมกะวัตต์ เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว (COD) แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าในประเทศ ขนาดกำลังการผลิตรวม 153.2 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตรวม 133 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการพลังงานต่อเนื่อง เช่นโครงการ Waste to Energy การเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน และสร้างกลไกการเข้าถึงคาร์บอนเครดิต เพื่อต่อยอดในการสร้างรายได้ในอนาคต อีกทั้งเริ่มศึกษาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนด้านการดูแลรักษาสุขภาพและความงามอย่างครบวงจร โดยการสร้างเครือข่ายทางการแพทย์เริ่มตั้งแต่การให้กำเนิดบุตร การป้องกัน การดูแลรักษา และการฟื้นฟู ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายอย่างบูรณาการในเร็วๆนี้