นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในไตรมาส 1/66 บริษัทมีรายได้รวม 488.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 472.1 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวประกอบด้วย รายได้จากการจากการขายอสังหาริมทรัพย์และสินค้า 206.8 ล้านบาท รายได้จากการบริการ 79.7 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 74.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.4 ล้านบาท หรือ 258% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20.7 ล้านบาท โดยเป็นกำไรจากผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่เท่ากับ 53.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.9 ล้านบาท หรือ 135.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 22.8 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/66 บริษัทมีการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จาก 5 โครงการหลัก ได้แก่ Ramada Residence (ชื่อเดิม Siamese Sukhumvit 87), Wyndham Residence (ชื่อเดิม Siamese Queens), Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Sukhumvit 48(ชื่อเดิม Siamese Sukhumvit 48), Siamese Exclusive 31 และ Siamese KIN รวม 172.3 ล้านบาท และรับรู้ รายได้จากโครงการอื่นๆ 34.5 ล้านบาท รวมเป็น 206.8 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากโครงการแนวราบคิดเป็นสัดส่วน 24.7% ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์และสินค้า
ขณะเดียวกันบริษัทมีการรับรู้รายได้ธุรกิจจากการให้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการทยอยเปิดให้บริการธุรกิจโรงแรม จำนวน 5 แห่ง และจากธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) การบริหารงานนิติบุคคล รวมเป็นรายได้จากงานการให้บริการทั้งสิ้น 79.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.3% ของรายได้รวม ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าเท่ากับ 36.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 83.4%
"ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกเป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้ เนื่องจากรายได้หลักจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบกับรายได้จากธุรกิจอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามกลยุทธ์การสร้างสมดุลรายได้ ซึ่งเป็นการปรับโมเดลธุรกิจเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงาน ให้สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น มั่นคงและยั่งยืนต่อไป" นายขจรศิษฐ์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทเตรียมโอนโครงการ Landmark at MRTA Station ซึ่งเป็นโครงการใหญ่มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันมี Backlog จากโครงการนี้ราว 4.7 พันล้านบาท คาดเตรียมทยอยโอนภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ 2 พันล้านบาท ประกอบกับมีโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่เตรียมทยอยโอนอีก 3 โครงการ
นอกจากนี้มีกลุ่ม Ready to move และกลุ่มธุรกิจบริการอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มโรงแรม กลุ่มร้านอาหาร กลุ่ม wellness กลุ่ม AMC ที่คาดว่าจะสร้างรายได้เข้ามาเพิ่มเติม และบริษัทยังมีแผนที่จะเปิดดำเนินการโรงแรมแห่งใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 1 แห่ง ได้แก่ Tribe Living Bangkok Sukhumvit 39 ทำให้เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 130% และสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์