BCH ร่วง 10.10% ลดลง 2.10 บาท มาที่ 18.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,118.24 ล้านบาท เมื่อเวลา 16.11 น. จากราคา 20.20 บาท ราคาสูงสุด 20.20 บาท ราคาต่ำสุด 18.60 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.บางกอก เชน ฮอสปีทอล (BCH) กำไรสุทธิ ไตรมาส 1/66 ลดลงตามสัดส่วนรายได้ COVID-19 แต่ Non-COVID เติบโตดี โดยคงแนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 23.60 บาท โดยรายได้กลุ่ม Non-COVID คาดกลับมาสู่สภาวะปกติและคนไข้ต่างชาติเริ่มกลับมารับบริการเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้รายได้จะกลับสู่ระดับ Pre-COVID อย่างไรก็ดี การควบคุมค่าใช้จ่ายและการเพิ่มศูนย์การแพทย์ ส่งผลให้รายได้และกำไรจะมีการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 254 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 6% QoQ และ 87% YoY โดยมีรายได้อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 4% QoQ และ 62% YoY
สัดส่วนรายได้จากกลุ่มประกันสังคมเริ่มกลับมาเติบโตจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ประกันตน และการกลับมารับการรักษาที่เพิ่มขึ้น EBITDA Margin ใน 1Q66 อยู่ที่ 22.3% อ่อนตัวลงทั้ง QoQ และ YoY
การรักษากลับสู่ปกติ โดยจะนับ COVID-19 เป็นการรักษาทั่วไป และการเพิ่มขึ้นของคนไข้ต่างชาติที่สามารถปรับเพิ่มจากกลุ่มตลาดใหม่ และการยกระดับการรักษาโรคซับซ้อนที่หนุนรายได้/บิลให้สูงขึ้น
รายได้และกำไรปี 2566 คาดว่าจะมาจากการเติบโตของกลุ่มคนไข้ต่างชาติ โดยมีกลุ่มลูกค้าใหม่ที่จะมาเพิ่มฐานรายได้ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย ลิเบีย และ CLMV พร้อมกับฐานคนไข้ประกันสังคมที่ทะลุ 1.0 ล้านราย โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ประกันตนในระบบนับเป็นเพียง 67% ของ Quota
ยังคงคาดการณ์รายได้ปี 2566 ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 2.03 พันล้านบาท โดย SSO มีการปรับอัตราการเบิกจ่ายแบบ Fixed Capitation ขึ้นจาก 1,640 บาท/ราย เป็น 1,808 บาท/ราย
การเติบโตของรายได้จะมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของกลุ่มคนไข้ต่างชาติ จากการเพิ่มกลุ่มคนไข้ใหม่จากประเทศลิเบียและซาอุดิอาระเบีย ที่มี Demand ในการทำ IVF และ Wellness และทาง BCH ได้กลับมาทำการตลาดกับกลุ่มคนไข้จีน หลังจากที่ประเทศจีนเริ่มมีการเปิดประเทศ