นายศักดิ์ชัย ธรรมสุรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดหาและวางแผนธุรกิจ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดค่าการกลั่นไตรมาส 2/66 ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.66 โรงกลั่นส่วนใหญ่ทั่วโลกจะมีการปรับปรุงซ่อมบำรุงโรงกลั่น
ส่วนในไตรมาส 3/66 คาดค่าการกลั่นจะปรับตัวลง ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องมีการปรับตัวรองรับกับค่าการกลั่นที่ลดลง จึงมีการปรับกระบวนการผลิตให้สามารถผลิตน้ำมันเบนซินหรือแก๊สโซลีน (Gasoline) รวมไปถึงน้ำมันอากาศยาน (Jet Fuel) มากขึ้น เนื่องจากมีค่าการกลั่นมาร์จิ้นที่สูงกว่าน้ำมันดีเซล และปรับกำลังการผลิตเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงสุด รวมถึงยังเตรียมความพร้อมหน่วยการผลิตเพื่อรองรับการผลิตน้ำมันมาตรฐานยูโร 5 เพื่อเป็นไปตามนโยบายของประเทศไทยที่ประกาศบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.67 เป็นต้นไป โดยบริษัทมองว่าไตรมาส 3/66 จะเป็นไตรมาสที่เหมาะนำหน่วยการผลิตมาปรับปรุง คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 20-25 วัน และกลับมาเดินเครื่องการผลิตได้ปกติ และจะช่วยสนับสนุนค่าการกลั่นในช่วงไตรมาส 4/66 ให้มีโอกาสจะปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่
สำหรับราคาน้ำมันดิบยอมรับว่ายังคาดเดาราคาได้ยาก โดยปัจจุบันทิศทางของราคาน้ำมันก็มีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากโอเปก พลัส จะควบคุมคาน้ำมันดิบในกรอบ 80-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากการลดกำลังการผลิตหรือปรับกำลังการผลิตให้เหมาะสม เพื่อควบคุมราคาน้ำมัน จะเป็นการช่วยโรงกลั่นให้ลดความเสี่ยงจากการขาดทุนสต็อกน้ำมัน ดังนั้นความผันผวนต่อราคาน้ำมันดิบลดลงจะเป็นผลดีต่อโรงกลั่น
อย่างไรตามบริษัทฯ ยังเดินหน้าศึกษาการลงทุนโครงการใหม่ๆ และมุ่งเน้นโครงการที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งจะเน้นในเรื่องของ ENERGY TRANSITION และให้ความสำคัญเรื่งอของการเติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับท่อส่งน้ำมัน SPM น่าจะมีการซ่อมบำรุงเสร็จในไตรมาส 2/66 และคาดว่าไตรมาส 3/66 จะเห็นการนำ SPM กลับมาใช้งาน