นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) คาดว่าปีนี้ผลประกอบการของบริษัทเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากราคาน้ำตาลปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งธุรกิจไฟฟ้าที่บริษัทฯผลิตไฟฟ้าและส่งขายให้การไฟฟ้าในปริมาณที่มากขึ้นและราคาที่สูงขึ้นจากการปรับค่า FT
โดยคาดว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถผลิตน้ำตาล 7.2 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้กลุ่มผลิตน้ำตาลคาดว่าราคาน้ำตาลโลกอาจจะปรับจากบริเวณ 18-21 เซนต์ต่อปอนด์ เป็น 22-23.5 เซนต์ต่อปอนด์ จากการที่ผู้ผลิตหลักผลิตได้ลดลง อีกทั้งบราซิลประสบปัญหาเรื่องการขนส่ง ส่งผลต่อการส่งออกน้ำตาลสู่ตลาด ประกอบกับสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลดีต่อรายได้จากการส่งออกน้ำตาล
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 538 ล้าน เพิ่มขึ้น 62% จากงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้น 54 % รายได้จากการขายสินค้าและบริการรวมเพิ่มขึ้นมา 9%
นายชลัช กล่าวต่อว่า ราคาน้ำตาลไทยส่งสัญญาณดีต่อเนื่องจนถึงปีหน้า ขานรับราคาน้ำตาลตลาดโลกที่ปรับตัวสูงอยู่ที่ บริเวณ 26-27 เซนต์ต่อปอนด์ เป็นราคาสูงที่สุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากปริมาณหีบอ้อยของไทยและอินเดียลดลง โดยปริมาณการผลิตน้ำตาลของบริษัทฯ ปีนี้อยู่ที่ 6.6 ล้านตัน คิดเป็น 7.03% เป็นอันดับ 5 จากปริมาณอ้อยทั่วประเทศทั้งหมด และในการเก็บเกี่ยวน้ำตาลในประเทศไทยยังน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 10%
นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญเผชิญความร้อนรุนแรง อาจส่งผลต่อปริมาณการเก็บเกี่ยวในรอบถัดไป ขณะเดียวกันประเทศอินเดียก็มีผลผลิตที่ลดลงจากปีที่แล้ว 35.9 ล้านตัน ลดลงเหลือ 32.8 ล้านตันในปีนี้
อีกทั้งในประเทศผู้ผลิตน้ำตาลหลัก 5 ประเทศ มีปริมาณการหีบอ้อยลดลงด้วยเช่นกัน ยกเว้นประเทศบราซิลที่กำลังเริ่มเก็บเกี่ยวคาดปริมาณน้ำตาลที่ส่งออกสู่ตลาดโลก 27 ล้านตันน้ำตาล