น.พ.การุณ เมฆานนท์ชัย ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) วางเป้าหมายปี 51 เติบโตแบบ conservative ที่ประมาณ 10% แม้จะมีการเปิดอาคารใหม่ในช่วง พ.ค.นี้ แต่อัตรากำไรขั้นต้นระยะแรกอาจลดลงเล็กน้อย 1-2% ตามภาวะต้นทุน ขณะที่ราคาน้ำมันและเงินบาทแข็งค่ากระทบยอดผู้ป่วยต่างประเทศเข้ามาใช้บริการลดลง เห็นได้จากไตรมาส 1/51 รายได้ทรงตัว
ในด้านการลงทุนก็ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยในประเทศจะใช้เงินลงทุนราว 2 พันล้านบาทปรับปรุงห้องตรวจ เครื่องมือแพทย์ และ อาคาร ส่วนต่างประเทศจะพิจาณณาเพิ่มการลงทุนผ่าน Bumrungrad International Limited (BIL) ที่ปัจจุบันถือหุ้น 31.5% เนื่องจากมีรีเทิร์นสูงถึง 20% ในปี 50
"การเปิดตึกบีเอชทาวเวอร์อาจจะกระทบกับอัตรากำไรขั้นต้นบ้างอยู่แล้ว แต่การซื้อกลับมาจะดีเสียอีกที่เราได้ตึกกลับมาแทนที่จะจ่ายเป็นค่าเช่า แต่ตึกนี้คงยังไม่สะท้อนรายได้หรอก เพราะต้องใช้เวลา 2 ปี ดังนั้นการเติบโตของรายได้ในปีนี้จะโตแบบ conservative ที่ 10% จาก 9,413 ล้านบาทในปีก่อน"น.พ.การุณ กล่าว
BH มีแผนเปิดทำการอาคารผู้ป่วยนอกที่ซื้อมาจากธนาคารกรุงเทพแล้วนำมาปรับปรุงใหม่ขนาด 22 ชั้นคือชั้นที่ 10-16 ตั้งแต่พ.ค.2551 เพื่อเพิ่มกำลังการให้บริการผู้ป่วยนอกจาก 3.5 พันคนต่อวันเป็น 4.5 พันคนต่อวัน
น.พ.การุณ กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 1/51 ปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูง ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ยอดผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการปรับตัวลดลง โดยเฉพาะลูกค้าจากสหรัฐ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะใช้เวลาตัดสินใจเข้ามาใช้บริการโรงพยายาลนานขึ้น และจะใช้บริการเฉพาะโรคที่จำเป็น ซึ่งโรงพยาบาลก็พยายามแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการดึงผู้ป่วยจากแถบตะวันออกกลางเข้ามาทดแทน รวมทั้งดึงผู้ป่วยคนไทยเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นด้วยการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อดึงผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไตรมาสที่เหลือของปีนี้ปริมาณผู้ป่วยจะกลับมาเหมือนเดิม จากการที่โรงพยาบาลได้เปิดอาคารผู้ป่วยหลังใหม่แล้วก็จะสามารถรองรับผู้ป่วยนอกได้เพิ่มขึ้น โดยจะรองรับผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นมาที่ 4.5 พันรายต่อวัน จาก 3.0-3.5 พันรายต่อวัน ขณะที่อัตราเฉลี่ยของผู้ป่วยนอกในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 3.0-3.2 พันคนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ประมาณ 2.8-2.9 พันคนต่อวัน
ปัจจุบัน BH มีสัดส่วนผู้ป่วยชาวไทย 55% และต่างชาติ 45%
น.พ.การุณ กล่าวอีกว่า ในปีนี้โรงพยาบาลเตรียมเงินลงทุน 2 พันล้านบาทเพื่อปรับปรุงกิจการในประเทศ ทั้งด้านอาคาร ห้องตรวจ และ เครื่องมือแพทย์ และอาคาร โดย BH มีกระแสเงินสดหมุนเวียนราว 1-3 พันล้านบาท และส่วนหนึ่งก็ได้กู้จากธนาคารเพื่อชำระค่าซื้ออาคารและที่ดินจาก BBL
พร้อมกันนั้น ยังเตรียมพิจารณาลงทุนต่างประเทศเพิ่มเติมผ่าน BIL หลังจากที่รีเทิร์นในปี 50 สูงถึง 20% แต่การเข้าไปลงทุนจะมากหรือน้อยคงดูจากรีเทิร์นในแต่ละประเทศ รวมถึงรัฐบาลแต่ละประเทศว่าให้การสนับสนุนหรือไม่ ซึ่งการลงทุนที่ผ่านมาก็เป็นที่น่าพอใจทั้งฟิลิปปินส์ และอาบูดาบี
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--