นายไพรัชล์ พรพัฒนนางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ระบุผลประกอบการบริษัทไตรมาส 1/66 ฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้ว หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และจากนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาลส่งเสริมนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทย สนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง คาดปีนี้จะกลับคืนสู่สภาวะปกติเหมือนก่อนที่จะมีภาวะโรคระบาด
ส่งผลให้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศและอัตราส่วนของการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) สูงเป็นประวัติการณ์ โดยส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 37% จากเดิม 32 % อัตราส่วนของการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 94% นั่นคือผู้โดยสารเต็มเกือบทุกเที่ยวบิน และจากปัจจัยเรื่องจำนวนเครื่องบินที่มากที่สุดในประเทศไทย ทำให้สามารถรักษาจำนวนเที่ยวบินทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งกำลังเติบโตด้วยความรวดเร็ว
ทั้งนี้ในไตรมาส 1/66 บริษัทรายงานกำไร 359.4 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้และจากตราสารอนุพันธ์จำนวน 539 ล้านบาท และรายได้รวม 9,814.8 ล้านบาทเติบโต 369% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีค่าเสื่อม ราคา และค่าตัดจำหน่าย EBITDA เป็นบวกที่ 1,765.4 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1,628.9 ล้านบาทในไตรมาส 4/65 หรือราว 8%
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น ระบุว่าบริษัทเล็งเห็นแนวโน้มของนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินต่อสัปดาห์ตามระยะเวลาที่ผ่านไปในปีนี้ โดยไตรมาส2/66 เพิ่มเที่ยวบินจากเชียงใหม่ไปจีน ในมณฑลปักกิ่ง มณฑลหางโจว และมณฑลฉางซา คาดการณ์ว่าในปีนี้จะสามารถขนส่งนักท่องเที่ยวจีนให้ได้ 10-15% ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดที่มาเยือนในประเทศไทย และเพิ่มเที่ยวบินได้สูงถึง 140 เที่ยวบิน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เคยทำได้ก่อนภาวะโรคระบาด
ในไตรมาส 1/66 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยมากกว่า 800,000 คน ซึ่งไทยแอร์เอเชียได้ขนส่งผู้โดยสารจากประเทศจีนมากกว่า 90,000 คนในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19