ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,522.39 จุด ลดลง 17.45 จุด (-1.13%) มูลค่าการซื้อขาย 29,659 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีแกว่งลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับต่ำสุด 1,520.69 จุด และสูงสุด 1,543.63 จุด
นายชาญชัย พันทาธนากิจ รองผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าปรับลงต่อจากวานนี้ ตอบรับความกังวลประเด็นทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง โดยเฉพาะความชัดเจนในการเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นปัจจัยหลักกดดันตลาดระยะนี้ รวมทั้งมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมากดดันหลังสิ้นสุดช่วงประกาศงบการเงินไตรมาส 1/66
ขณะเดียวกัน ปัจจัยภายนอกยังมีความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ หลังยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% เริ่มสะท้อนภาพการชะลอตัวชัดขึ้น ประกอบกับ ความไม่แน่นอนในการพิจารณาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐที่ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้นักลงทุนตัดสินใจขายลดความเสี่ยงออกมา โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่ายังเคลื่อนไหวในแดนลบ แต่มองว่าดัชนีปรับลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว ทำให้อัพไซด์เริ่มเปิด อาจจะเป็นโอกาสเข้าทยอยสะสม โดยให้แนวต้าน 1,530-1,540 จุด แนวรับ 1,500-1,510 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,998.96 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 2.00 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,280.26 ล้านบาท ปิดที่ 47.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,277.65 ล้านบาท ปิดที่ 71.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,028.19 ล้านบาท ปิดที่ 134.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,027.15 ล้านบาท ปิดที่ 102.50 บาท ลดลง 2.00 บาท