นายเอกกมล ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บมจ.เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น (ASIAN) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ารายได้ปีนี้ปรับลดลงเหลือ 10,700 ล้านบาท จากเดิม 13,000 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจจากสหรัฐฯและยุโรปมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งซึ่งมีตลาดสหรัฐเป็นตลาดหลัก รวมทั้งปัญหาสินค้าคงคลังของลูกค้าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในระดับสูง (Over Stock)
อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังคาดว่าสถานการณ์ระดับสินค้าคงคลังจะกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ที่เคยลดลงในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารทะเลแช่เยือกแข็งที่ได้รับกระทบจากปัจจัยดังกล่าวโดยตรง
"ในปี 66 เป็นปีที่ต้องปรับกลยุทธ์รับความท้าทายจากปัจจัยลบภายนอก โดยเฉพาะจากตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง โดยลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อเนื่องจากลูกค้าต้องปรับลดปริมาณสินค้าคงคลังให้สอดรับกับระยะเวลาการสั่งซื้อใหม่ที่ปรับสั้นลง บริษัทจะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการภายในอย่างรัดกุม
ขณะที่มองภาพรวมบริษัทปี 66 หลังผ่านไตรมาส 1 ว่า ปีนี้รายได้รวมของกลุ่มอาจชะลอตัวลงประมาณ 4% จากปี 65 ที่มีรายได้ 11,164 ล้านบาท แต่มองในระยะยาว ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง ยังสามารถฟื้นตัวและเป็นธุรกิจหลักของบริษัทได้ตามแผน" นายเอกกมล กล่าว
ในขณะที่งบลงทุนปี 66 ยังไม่เปลี่ยนแปลงที่วงเงิน 1,371 ล้านบาท ใน 3 ธุรกิจ แต่จะพิจารณาเพิ่มความระมัดระวัง เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยแผนลงทุน ได้แก่ ใช้ขยายกำลังการผลิตและสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 ในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง จำนวน 1,173 ล้านบาท , เพิ่มประสิทธิภาพสายการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดและเปลี่ยนเครื่องกำเนิดไอน้ำ (Boiler)ใหม่ จำนวน 54 ล้านบาท และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและนำระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์มาใช้เพื่อลดต้นทุนพลังงาน จำนวน 144 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 1/66 ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำมีรายได้อยู่ที่ 245 ล้านบาท เติบโตขึ้น 13% YoY แม้ว่าผลผลิตกุ้งในไตรมาส 1/66 ลดลง 2.1% แต่บริษัทสามารถเพิ่มปริมาณการขายอาหารกุ้งได้ 7% YoY จากการปรับราคาและปรับปรุงคุณภาพอาหาร ทำให้บริษัทเรียกความเชื่อมั่นของเกษตรได้มากขึ้น บริษัทคาดการณ์ว่าไตรมาส 2/66 ซึ่งเป็นช่วงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รายได้อาจจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะส่งออกธุรกิจอาหารสัตว์น้ำไปยังตลาดต่างประเทศในอนาคต
นายเอกกมล ย้ำถึงทิศทางกลุ่มบริษัท เราอยู่ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหาร แม้ปัจจัยการส่งออกกระทบโดยเฉพาะฐานลูกค้าในสหรัฐฯ และยุโรป แต่มองระยะยาว ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารยังคงมีความต้องการ และมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่สอดรับเทรนด์ Pet Humanization หรือ สัตว์เลี้ยงคือสมาชิกในครอบครัว ดังนั้น กลยุทธ์ที่จะมุ่งเน้นในการเติบโตคือ การขยายฐานลูกค้า และการวิจัยเพื่อสร้างคุณค่าให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงแผนการลงทุนที่วางไว้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุน จะเป็นการเตรียมความพร้อม และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต