นายกิจชาญพิชญ์ สุกังวานวิทย์ กรรมการบริหาร บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล (WAVE) เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจของบริษัท Wave Education Group ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท (Wallstreet) ว่า ในปีนี้บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะขยายสาขาการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ
โดยจะเป็นการขยายสาขา 2 รูปแบบ ทั้งระบบแฟรนไชส์ และการเปิดสาขาเอง จากปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 13 สาขา รวมสาขาแฟรนไชส์ 2 สาขา ซึ่งในปีนี้คาดว่ายอดขายรวมจะอยู่ที่ประมาณ 500-550 ล้านบาท โดยตั้งเป้าปี 68 จะมีสาขารวมทั้งหมด 21 สาขา และยอดขายปรับขึ้นสู่ระดับ 1,000 ล้านบาท
"เราตั้งเป้าสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Wallstreet ไว้ว่า ในปีนี้จะมียอดขายทุกสาขารวมอยู่ที่ 500-550 ล้านบาท จากสิ้นปี 65 มียอดขายและการให้บริการอยู่ที่ 286.10 ล้านบาท ในอีก 3 ปีหรือในปี 68 จะมีสาขารวมทั้งหมด 21 สาขา และทำยอดขายขึ้นไปอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท" นายกิจชาญพิชญ์ กล่าว
บริษัทระบุว่า แบรนด์ Wallstreet ถือเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก มีความพร้อมทั้งเรื่องของหลักสูตร, นวัตกรรม และ กิจกรรมต่างๆ เพื่อทำให้นักเรียนได้เพิ่มศักยภาพในด้านภาษาให้ได้มากที่สุดซึ่งในอนาคต Wave Education ตั้งเป้าหมายจะขยายขอบเขตให้ครอบคลุมทุก Segment โดยมองที่กลุ่ม ต่ำกว่า 15 ปี ลงไป
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้เริ่มเปิด Platform franchise ซึ่งได้ผลตอบรับค่อนข้างดี มีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก และในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ได้เซ็น MOU กับทางพันธมิตร ในจังหวัดชลบุรี เพื่อเปิดเฟรนไชส์ ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ศรีราชา คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ต้นไตรมาส 4/66
ขณะที่ในต่างประเทศเราให้น้ำหนักไปที่เซาส์อีสเอเชีย โดยมีการเตรียมตัวเพื่อจะไปเปิดตลาดใน 2 ประเทศ คือ ลาว และ กันพูชา ซึ่งมองว่ามีโอกาสสูงในการเปิดในปีนี้ เพราะเชื่อในศักยภาพของแบรนด์ Wallstreet และทีมงานที่เปิดดำเนินการทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ทั้งเรื่องระบบ และ หลักสูตรว่าสามารถทำการตลาด เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค ในประเทศต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
สถาบันสอนภาษาอังกฤษ Wallstreet มีการดำเนินการทั่วโลกมากกว่า 50 ปี และในประเทศไทยได้เปิดดำเนินการมากว่า 20 ปีตั้งแต่ปี 46 (ค.ศ.2003) โดยมีนักเรียนกว่า 100,000 คนที่จบหลักสูตร มียอดขายสูงที่สุดใน Asia มีส่วนแบ่งตลาด ในส่วนของกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมกว่า 35%
"เราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันประชาชนในประเทศ เพื่อให้สามารถนำความรู้ด้านภาษาไปใช้เพื่อพัฒนาทั้งเชิงความสามารถ เพิ่มขีดจำกัดในการเรียนรู้ และด้านธุรกิจ ของแต่ละภาคส่วน ซึ่งในความเป็นจริง ประเทศไทยเอง เป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศเลือกเดินทางมาเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ เราเองเชื่อว่าการศึกษา และ คุณภาพด้านภาษา จะสามารถช่วยพัฒนาศักยภาพของคนไทย และระบบการเรียนรู้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว หรือ นักลงทุนจากต่างชาติในอนาคต" นายกิจชาญพิชญ์ กล่าว