ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กตัวเลขว่างงานร่วง หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 85.73 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 25, 2008 06:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) หลังจากรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้รับสวัสดิการในระหว่างว่างงานลดลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีเกินคาดของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ และราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์ ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายให้คึกคักขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 85.73 จุด หรือ 0.67% แตะระดับ 12,848.95 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 8.89 จุด หรือ 0.64% แตะระดับ 1,388.82 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 23.71 จุด หรือ 0.99% แตะระดับ 2,428.92 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.45 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.35 พันล้าน
จอห์น เมอร์ริล นักวิเคราะห์จากบริษัทแทงเกิลวูด แคปิตอล เมเนจเมนท์ ในเมืองฮุสตันกล่าวว่า "ตลาดหุ้นนิวยอร์กตอบรับรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงงานลดลง 33,000 ราย แตะระดับ 342,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3,000 ราย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยผ่อนคลายความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ"
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค.ลดลง 0.3% เนื่องจากยอดสั่งซื้อสินค้าด้านการขนส่งปรับตัวลดลง ขณะที่การส่งออกสินค้าประเภททุนไม่รวมเครื่องบินซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายทุนของภาคธุรกิจนั้น พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนมี.ค. สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการสินค้าประเภททุนของสหรัฐในต่างประเทศยังคงแข็งแกร่ง
"นับลงทุนจับตาดูตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมภายในประเทศ ตัวเลขว่างงานที่ปรับตัวลดลงอาจกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคให้ปรับตัวสูงขึ้น" เมอร์ริลกล่าว
นักลงทุนให้น้ำหนักกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจหยุดพักการลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมสัปดาห์หน้า เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงสูงขึ้น
"เฟดวิตกว่า หากปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกก็อาจทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น รวมทั้งความกังวลว่าราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะ Stagflation (ภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงแต่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น) ซึ่งหากเฟดหยุดพักการลดอัตราดอกเบี้ยตามที่เราคาดการณ์ ก็สะท้อนให้เห็นว่าเฟดให้ความสำคัญกับความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้ออย่างจริงจัง" วอลล์สตรีท เจอร์นัลกล่าว
ทั้งนี้ หุ้นฟอร์ดปิดพุ่งขึ้น 12% หลังจากฟอร์ดซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐเปิดเผยกำไรไตรมาสแรกที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้น 3M ดิ่งลง 1.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.13 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทรายงานผลกำไรลดลง 28% ในไตรมาสแรก
ส่วนหุ้นโมโตโรลาดิ่งลง 3.1% หลังจากบริษัทรายงานตัวเลขขาดทุนในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายโทรศัพท์มือถือลดลง 39%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ