นายภูวดล ภูสอดเงิน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.บัวหลวง กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าดัชนีแกว่งพักตัวอยู่ในกรอบ หลังจากนักลงทุนต่างชาติยังคงขายต่อเนื่อง ประกอบกับหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ เช่น กลุ่มแบงก์ กลุ่มโรงแรม กลุ่มค้าปลีก คาดว่าจะมีการพักฐานลงมา แต่ยังมีหุ้นที่ช่วยพยุงดัชนีได้ เช่น DELTA และหุ้นในกลุ่มพลังงาน ที่ทำให้ดัชนีสามารถแกว่งตัวในกรอบได้ ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังคงต้องติดตามการเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐว่าจะมีความชัดเจนออกมาอย่างไร หลังจากยังไม่ได้ข้อสรุป ทำให้ฟิทช์เรตติ้งปรับลดเครดิตเรทติ้งสหรัฐลงมา และอาจเกิดความผันผวนในตลาดตราสารหนี้ รวมถึงตลาดหุ้นด้วย ซึ่งยังคงเห็นว่าต่างชาติยังคงขายต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังรอความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาบวกและลบสลับกัน
โดยให้แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,525-1,530 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (24 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,799.92 จุด ลดลง 255.59 จุด หรือ -0.77%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,115.24 จุด ลดลง 30.34 จุด หรือ -0.73% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,484.16 จุด ลดลง 76.08 จุด หรือ -0.61%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 30,599.27 จุด ลดลง 83.41 จุด หรือ -0.27%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 18,930.23 จุด ลดลง 185.7 จุด หรือ -0.97% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,197.36 จุด ลดลง 7.39 จุด หรือ -0.23%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 พ.ค.66) 1,536.51 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด (+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 44,657.53 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 66.16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 พ.ค.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. (24 พ.ค.)เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 1.96% ปิดที่ 74.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 พ.ค.) อยู่ที่ 4.19 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.72 อ่อนค่าตามภูมิภาค หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่าจากกังวลเพดานหนี้สหรัฐ
- ส.อ.ท.คงเป้าการผลิตรถปีนี้ 1.95 ล้านคัน หลังยอดผลิต 4 เดือน ขยายตัว 4.61% ส่งออกฟื้น 18.34% ขณะที่ยอดขายในประเทศลดลง 6.11% โดยเฉพาะรถกระบะ สะท้อนกำลังซื้ออ่อนแรงจากปัญหาหนี้เสียและหนี้ครัวเรือน
- "ท่องเที่ยว" เกาะกระแส "พิธาฟีเวอร์" เล็งดึงนั่งแท่นแอมบาสเดอร์ โปรโมตท่องเที่ยวไทยทั้งตลาดในและ ต่างประเทศ "ททท." ชี้ "พิธา" เป็น KOL บุคลิกเข้าถึงคนรุ่นใหม่ ชักชวนให้ออกเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้น
- กสิกรไทย ประเมินเศรษฐกิจไทย ปีนี้ขยายตัว3.7% ห่วงนโยบายขึ้นค่าแรงรัฐบาลใหม่ กระทบนักลงทุนย้ายฐานการผลิตไปเวียดนาม ชี้ไทยค่าแรงสูงกว่าหลายประเทศในอาเซียน หวั่นยิ่งทำเงินเฟ้อเร่งตัว จับตาเงินบาท 1 เดือนข้างหน้าผันผวนหนัก จากการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด นักลงทุนกังวลการจัดตั้งรัฐบาล
- กกต.เตรียมประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ สรุป "ก้าวไกล" ส.ส.หดเหลือ 151 คน "พท." 141 คน "ภท." ขยับเป็น 71 คน "พปชร." 40 คน "รทสช." 36 คน "ปชป." ได้ 25 คน ยอดใช้สิทธิ 75.71% บัตรเสีย 3.82% "ก.ก." เอาจริงเก้าอี้ "ปธ.สภาฯ" แจง 3 วาระสำคัญดัน กม.ก้าวหน้า-แก้ รธน.-สร้างรัฐสภาโปร่งใส ย้ำต้องการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เพื่อตำแหน่ง "โรม" ลั่นควรเป็นของพรรคอันดับ 1 "เพื่อไทย" ดาหน้าซัดอย่ากินรวบ อัด "ปิยบุตร" โพสต์กดดันปิดช่องไม่ให้พูดคุย "อดิศร" ขู่ดึงดันไร้ พท. ตั้งรัฐบาลไม่ได้ "ชลน่าน" เดือดซัดหนัก "ศิธา"
*หุ้นเด่นวันนี้
- BDMS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 34.50 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/66 เบื้องต้นคาดชะลอตัว q-q จากปัจจัยฤดูกาลซึ่งปกติมักเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี แต่คาดยังคงเป็นระดับที่แข็งแกร่ง ระยะกลาง-ยาวคาดว่ายังคงได้อานิสงส์จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทั้งไทยและโดยเฉพาะต่างประเทศ เรายังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2566 ที่ 1.35 หมื่นลบ. +7% y-y ราคาหุ้นที่พักตัวลงเป็นจังหวะในการเข้าลงทุน จากธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีความเสี่ยงต่ำและกระทบจำกัดจากนโยบายของรัฐบาลใหม่โดยเฉพาะค่าแรง
- MAKRO (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า IAA Consensus 44 บาท ได้ประโยชน์จากนโยบายพรรคการเมืองปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนยอดขาย และดักเก็งกำไรก่อนปรับเข้าคำนวณในดัชนี MSCI รอบใหม่มีผล ณ ราคาปิด 31 พ.ค.66
- SNNP (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 28.00 บาท กำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 154 ลบ. (+46%YoY, +1% QoQ ) มีแรงหนุนในเชิงรายได้YoY จากการ Reopening ทั้งในประเทศไทยและการรุกตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะเวียดนาม สำหรับระยะถัดไปคาดว่ายังมีปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตจาก 1.การขยายโรงงานเพิ่มกำลังผลิตในเวียดนามซึ่งทะยอยเปิดเป็น 3 เฟส(เฟสแรกในครึ่งปีหลังปี 65และ เฟสสุดท้ายช่วงไตรมาส 3/66 นี้) และ 2.การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่องตามกระแส เช่น ขนมโลตัสหนังไก่กรอบ รสหมาล่า รวมถึงการออกสินค้าแบบ Travel Pack เพื่อกลุ่มนักเดินทาง/นักท่องเที่ยว ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี66 และ67 กำไรสุทธิของ SNNP จะสามารถขยายตัวต่อมาอยู่ที่ระดับ 710 ลบ. (+38%YoY) และ 839 ลบ.(+18%YoY)