ธนาคารทิสโก้เอาใจนักลงทุนกังวลขาดทุนเงินต้น เชียร์ซื้อกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไชน่า อิควิตี้ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ฟันด์ 1Y2 (UCEQC1Y2) กองทุนประเภท Complex Fund ที่ช่วยลดความเสี่ยงการสูญเสียเงินต้น จำกัดความเสี่ยงขาลง เพิ่มโอกาสสร้างกำไรทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 25 - 31 พฤษภาคม 2566
นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักลงทุนบางส่วนเริ่มกังวลถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้าซึ่งจะส่งผลลบโดยตรงต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่การเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ยังไม่มีความชัดเจน หากการเจรจาล้มเหลวจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถจ่ายเงินเจ้าหนี้และลูกจ้างได้ จากความกังวลดังกล่าวส่งให้นักลงทุนบางกลุ่มไม่กล้าลงทุนในช่วงนี้เพราะเกรงว่าหากตลาดพลิกตัวเป็นขาลงจะทำให้ขาดทุนเงินต้น
ธนาคารทิสโก้เข้าใจถึงความกังวลของนักลงทุนเป็นอย่างดี ดังนั้น ตั้งแต่ไตรมาส 1/66 ที่ผ่านมาธนาคารทิสโก้จึงแนะนำให้ลูกค้าสับเปลี่ยนการลงทุนไปยัง "กองทุนตราสารซับซ้อน" (Complex Fund) เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้น และเพิ่มโอกาสสร้างกำไรแม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลง ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มโอกาสสร้างกำไรหากตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยกองทุน Complex Fund ที่น่าสนใจในช่วงนี้ ธนาคารทิสโก้แนะนำซื้อ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไชน่า อิควิตี้ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ฟันด์ 1Y2 (UCEQC1Y2) ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) ซึ่งจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 25 - 31 พฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ กองทุน UCEQC1Y2 มีนโยบายการลงทุนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศ รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 95.00 - 99.90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดย ในส่วนที่ 1 กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน (FX Hedging) อย่างไรก็ดี ในกรณีที่สภาวการณ์ไม่ปกติกองทุนอาจพิจารณาป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน และอาจปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังกล่าว เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การลงทุน
ส่วนที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้กับกองทุนสามารถแสวงหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มกองทุนจะแบ่งเงินลงทุนประมาณ 0.10 - 5.00 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับระดับราคาของสินทรัพย์อ้างอิง คือ Xtrackers Harvest CSI300 China A-Shares ETF นอกจากนี้ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนใน Derivatives เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX Hedging) โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 1 ปี ได้ ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก