นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) กล่าวว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 800 ล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) ไม่เกิน 450 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.60 % ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้
เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ในระหว่างวันที่ 2, 6 และ 7 มิถุนายน 2566 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 9 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บล.เอเซีย พลัส บล.เกียรตินาคิน (รวมถึงธนาคารเกียรตินาคินเป็นหน่วยงานขาย) บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล.เมรอ์ชั่น พาร์ทเนอร์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน และ บล.บียอนด์
JMT ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรและหุ้นกู้ที่ "BBB+" แนวโน้ม "Stable" โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2566
สำหรับผลการดำเนินงานล่าสุด ในไตรมาส 1 ของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวมกว่า 1,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้จากการจัดเก็บกระแสเงินสดจากหนี้ด้อยคุณภาพที่ได้รับซื้อมาเพิ่มในช่วงปลายปีที่ผ่านมาและการจัดเก็บกระแสเงินสดจาก บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาส 1 ของปี 2566 บริษัทมียอดกระแสเงินสดจากจัดเก็บหนี้ (Cash Collection) (รวมกระแสเงินสดที่จัดเก็บโดย JK AMC) เท่ากับ 1,944 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า
"ทั้งนี้ในอีก 9 เดือนหลังของปี 2566 ทางบริษัทมีความมั่นใจว่าธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพจะเติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายการที่บริษัทได้วางไว้จากปัจจัยสภาพของตลาดหนี้ด้อยคุณภาพที่มีหนี้มากขึ้นซึ่งจะช่วยสนับสนุนแผนการซื้อหนี้ของบริษัท"