นางอังคณีย์ ฤกษ์ศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.ไทย โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 จะเติบโตดีกว่าทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า จากเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานหลังเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Onikoube ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จังหวัด Miyagi ในญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้ง 147 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญารับซื้อไฟฟ้าที่ 133 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัท เพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท และหนุนภาพรวมครึ่งปีแรกให้เติบโตดีกว่าปีก่อน
บริษัทฯ ยังเตรียมเข้าประมูลโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรอบ 2 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประมาณ 3,668 เมกะวัตต์ ภายในเดือนมิ.ย.-ก.ค.นี้ คาดหวังได้กำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 150 เมกะวัตต์
สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ ยังไม่มีแผน COD โรงไฟฟ้าเพิ่มเติม แต่มองการเข้าซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ที่มีผลประกอบการดี โดยมั่นใจว่าจากการดำเนินงานดังกล่าวจะสร้างรายได้ปีนี้ให้เติบโตทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แตะระดับ 3,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1,974 ล้านบาท
บริษัทฯ ตั้งเป้ากำลังการผลิตรวมจะเติบโตเป็น 500 เมกะวัตต์ ภายใน 5-7 ปีข้างหน้า จากการจัดหาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ๆ ภายใต้แผน PDP การขยายการลงทุนกรือการร่วมลงทุนในโซลาร์ฟาร์ม รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในไทย ที่มีการดำเนินงานอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมองการลงทุนในพลังงานจากขยะ ซึ่งปัจจุบันก็อยู่ระหว่างการศึกษา ส่วนในต่างประเทศ มองโอกาสเข้าไปร่วมลงทุนในพลังงานหมุนเวียน ทั้งลม โซลาร์ฟาร์ม เพื่อสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจาก Renewable แล้ว บริษัทฯ เริ่มศึกษาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับศูนย์ดูแลสุขภาพ (Wellness) เพื่อเพิ่มการเติบโตอย่างยั่งยืนในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพ และความงามอย่างครบวงจร โดยการสร้างเครือข่ายทางการแพทย์ ตั้งแต่การให้กำเนิดบุตร และธุรกิจด้านการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตในอนาคต เนื่องด้วยปัจจุบันเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) มากขึ้น รวมถึงการเกิดใหม่ของประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความสนใจในธุรกิจดังกล่าว
ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 286.20 เมกะวัตต์ รวมทั้งหมด 35 โครงการ แบ่งเป็น โซลาร์ฟาร์ม จำนวน 17 โครงการ กำลังการผลิตรวม 117 เมกะวัตต์, โซลาร์รูฟท็อป จำนวน 14 โครงการ ขนาด 14 เมกะวัตต์, ไบโอแมส จำนวน 3 โครงการ รวม 22.2 เมกะวัตต์ และโซลาร์ฟาร์ม ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 1 โครงการ ขนาด 133 เมกะวัตต์