นายภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความผันผวน ความไม่แน่นอน และ สลับซับซ้อน แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกมีทิศทางเติบโตดีขึ้น แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามทั้ง ปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาตร์ อัตราเงินเฟ้อ และราคาพลังงาน ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change)
การทำธุรกิจในตลาดโลกของ EPG จึงนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง โดยในปีบัญชี 66/67 (เม.ย. 66 - มี.ค. 67) EPG ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 10% มาที่ 1.32 หมื่นล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นที่ 30-33% มาจากการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้
- ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 8-10% มาจากสินค้าเกรดพรีเมี่ยม และสินค้ารุ่นใหม่สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม Ultra Low Temperature Insulation และ ระบบ Air Ducting system ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีในสหรัฐอเมริกา และมุ่งเน้นทำการตลาดในประเทศ และญี่ปุ่น
- ฉนวน Aeroflex ตอบโจทย์การประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงได้การรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ Aeroflex อยู่ระหว่างพิจารณาให้ใบอนุญาต (License) เพื่อจัดจำหน่ายฉนวน Aeroflex บางรุ่นในทวีปยุโรป อีกทั้ง เตรียมส่งฉนวน Aeroflex ทดสอบเพื่อขอรับมาตรฐานด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุดของวัสดุกันไฟในยุโรปเพิ่มเติม พร้อมตั้งเป้าหมายระยะยาวปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ "Net Zero" ภายในปีพ.ศ. 2585
- ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 8-10% มาจากการพัฒนาสินค้านวัตกรรมร่วมกับลูกค้ากลุ่ม OEM ค่ายยานยนต์ของยุโรป เอเชีย และ สหรัฐอเมริกา ได้ทยอยออกสู่ตลาดแล้ว และด้วยความเชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จากโพลีเมอร์และพลาสติกเพื่อให้มีน้ำหนักเบา มีความทนทาน และได้มาตรฐานความปลอดภัย Aeroklas จึงมีโครงการเพื่อพัฒนาสินค้านวัตกรรมสำหรับยานยนต์ทั้ง ICE และ EV ร่วมกับค่ายยานยนต์เพื่อสร้างสินค้า New S-Curve อย่างต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจในออสเตรเลียภายใต้ Aeroklas Asia Pacific Group (AAPG) ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเสริมการทำงานร่วมกันของธุรกิจและทุกแบรนด์ในออสเตรเลีย โดยใช้ศักยภาพที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว มาเพิ่มยอดขาย พร้อมกับควบคุมค่าใช้จ่าย เพื่อเทิร์นอะราวด์ธุรกิจในออสเตรเลียอย่างเร็วที่สุด
- ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 10-12% โดยเร่งให้เกิดอัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น ทั้งนี้ EPP ได้ส่งบรรจุภัณฑ์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด เช่น กล่องอาหารรุ่น TF เพื่อทดแทนกล่องโฟม อีกทั้ง ตามที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กำหนดให้ภาชนะพลาสติกสำหรับอาหาร เป็นสินค้าควบคุมต้องได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) มอก. 655 ซึ่งเป็นมาตรฐานของภาชนะและเครื่องใช้พลาสติก และ มอก. 2493 สำหรับภาชนะพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับเตาไมโครเวฟ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อ 3 ม.ค. 66 นั้น EPP ได้รับใบอนุญาตมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมครบถ้วนแล้ว นอกจากนี้ EPP ปรับกลยุทธ์การตลาดด้วยการขายสินค้าแบบไขว้ (Cross selling) ทั้งบรรจุภัณฑ์พลาสติกระดับพรีเมียมและผลิตภัณฑ์ทั่วไปเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับการดำเนินงานด้านวิจัยและพัฒนาของบริษัท อีพีจี อินโนเวชัน เซ็นเตอร์ จำกัด ไม่เพียงแต่สนับสนุนธุรกิจหลักทั้ง 3 ธุรกิจ ด้วยการสร้างสินค้านวัตกรรม New S-Curve แต่ดำเนินงานวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสินค้านวัตกรรมสำหรับกลุ่มธุรกิจใหม่ในอนาคต
นายภวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีบัญชี 66/67 รวม 450 ล้านบาท เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเพิ่มเครื่องจักรสำหรับผลิตสินค้าใหม่ รวมถึงใช้ปรับปรุงไลน์การผลิต อีกทั้ง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 66 มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มเติมอีกในวงเงินไม่เกิน 1 พันล้านบาท จากเดิมที่บริษัทมีวงเงินในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่เกิน 2 พันล้านบาท รวมเป็นวงเงินที่บริษัทสามารถออกและเสนอขายหุ้นกู้ทั้งสิ้นไม่เกิน 3 พันล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ หรือรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต