SET ปิดวันนี้ที่ 1,531.20 จุด เพิ่มขึ้น 9.80 จุด (+0.64%) มูลค่าการซื้อขาย 42,523.30 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้น โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,524.52 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,534.49 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 277 หลักทรัพย์ ลดลง 192 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 175 หลักทรัพย์
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ตอบรับปัจจัยบวกวุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 63 ต่อ 36 เสียง ผ่านร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามบังคับใช้ต่อไป รวมถึงนักลงทุนยังคาดการณ์ธนาคารสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.นี้ เนื่องด้วยอัตราดอกเบี้ยสหรัฐปัจจุบันขึ่นมาอยู่ที่ระดับ 5% สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ราว 4% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของเฟด ทำให้ภาพรวมผ่อนคลายมากขึ้น
ขณะที่ราคาน้ำมีนดิบก็ปรับตัวขึ้น ทำให้มีแรงหนุนต่อหุ้นกลุ่มน้ำมันในวันนี้ อีกทั้งนักลงทุนก็รับปัจจัยลบเกี่ยวกับการเมืองในประเทศไปพอสมควรแล้ว
แนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดตลาดฯ ยังมี Momentum เชิงบวก โดยแนะติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันนี้ ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นราว 190,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงาน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.4% ในเดือนเม.ย. รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในวันอังคารหน้า คาดจะปรับตัวลงสู่ระดับ 1.5% หนุนตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ให้แนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,550 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,568.97 ล้านบาท ปิดที่ 99.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,392.94 ล้านบาท ปิดที่ 105.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,349.44 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,305.53 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
TTB มูลค่าการซื้อขาย 1,228.39 ล้านบาท ปิดที่ 1.67 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท