นายวัลลภ รุ่งกิจวรเสถียร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) คาดว่า ในปี 51 จะมีกำไรสุทธิต่อเนื่องจากปีก่อน โดยจะเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาส 1/51 ที่กำไรน่าจะออกมาสูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้สูงขึ้นเป็น 2% จาก 1.7% ในปี 50 และ บริษัทพยายามควบคุม-บริหารต้นทุนให้ได้
"ปีนี้คาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า 2% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 1.7% โดยบริษัทจะพยายามควบคุมต้นทุนและบริหารต้นทุนวัตถุดิบเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไร แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาราคาวัตถุดิบวัสดุก่อสร้างราคาจะปรับตัวเพิ่ม"นายวัลลภ กล่าว
นายวัลลภ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะได้งานใหม่ 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อรักษา backlog ไว้ในระดับ 2 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.2 หมื่นล้านบาท โดยมีงานที่จะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทเตรียมเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชน
บริษัทจะเน้นงานภาคเอกชนมากขึ้น โดยสัดส่วนรายได้ปี 51 คาดว่าจะมาจากภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเป็น 40% จากเดิม 30% ขณะที่งานภาครัฐจะเหลือ 60% ซึ่งจะเป็นงานภาครัฐขนาดใหญ่ เช่น การเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงโดยบริษัทจะเข้าประมูลแบบบริษัทเดียวไม่มีพันธมิตรโดยคู่แข่งสำคัญจะเป็น CK, ITD และคู่แข่งจากประเทศจีน
สำหรับงานรับเหมาช่วงในโครงการ Pluto LNG จาก STP&I มูลค่าสัญญา 5.06 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่ไม่ต้องลงทุนเรื่องวัสดุก่อสร้าง เพราะเป็นงานรับจ้างก่อสร้าง โดยคาดว่างานนี้จะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงมากและน่าจะส่งผลดีต่อบริษัท เชื่อว่างานประเภทรับจ้างจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทมีพันธมิตรที่ดีที่จะส่งมอบงานประเภทนี้ให้อีก
ทั้งนี้ การที่ราคาเหล็กปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้ยังไม่มีกระทบกับบริษัท เพราะบริษัทมีสต็อกเหล็กไว้แล้วประมาณ 1.7 หมื่นตัน เพื่อไว้ใช้งานในอนาคต
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/จำเนียร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--