ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,531.70 จุด เพิ่มขึ้น 0.50 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขายราว 26,873 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกและแดนลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,539.49 จุด และต่ำสุด 1,528.96 จุด
น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมาแกว่งตัวไซด์เวย์ทั้งบวกและลบ โดย Sentiment ปัจจัยภายนอกจากออกมาในเชิงบวก หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐเซ็นขยายเพดานหนี้ รวมถึงการประชุม OPEC+ ล่าสุดได้มีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันรีบาวด์กลับมาหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยผลักดันภาพรวมดัชนี
ขณะเดียวกันช่วงเช้านี้รายงานตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในเดือน พ.ค.66 ชะลอลงมากกว่าตลาดคาดไว้ ถือว่าเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการจับจ่ายใช้สอยที่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อลดลง แต่ยังคงมีปัจจัยกดดันจากประเด็นความไม่แน่นอนของการเมืองในประเทศ ทำให้ดัชนียังแกว่งตัวอยู่ในกรอบ
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่ายังแกว่งตัวในกรอบต่อไป ไร้ปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามาส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ หลังรับรู้ปัจจัยต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาไปมากแล้ว ให้แนวต้าน 1,535-1,540 จุด แนวรับ 1,520-1,525 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,593.71 ล้านบาท ปิดที่ 102.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,344.89 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,053.46 ล้านบาท ปิดที่ 45.25 บาท ลดลง 1.75 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 910.31 ล้านบาท ปิดที่ 28.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCB มูลค่าการซื้อขาย 831.56 ล้านบาท ปิดที่ 106.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท