นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อน หลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และยังได้ผลดีจากค่า Ft ที่สูงขึ้น ซึ่งจะชดเชยกับ Adder ที่ลดลง รวมถึงตั้งเป้าอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ของโรงไฟฟ้าที่จำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 95% จากเดิมอยู่ที่ 80% หลังจากปิดซ่อมบำรุงในปีที่ผ่านมา
ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าของโรงงานปูนซีเมนต์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปี 64-65 ราว 10-15% จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น และความต้องการใช้ไฟฟ้าจาก EV ที่เข้ามาปรับปรุงในระบบอีกประมาณ 25 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้มีการปรับปรุงบอยเลอร์ที่ใช้ถ่านหินมาเป็น RDF ทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตไฟฟ้าและขายให้โรงงานปูนซีเมนซ์มากขึ้น คาดว่าจะมีปริมาณการขายไฟให้กับโรงงานปูนฯ เติบโตได้ประมาณ 20%
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 แม้ในเดือนพ.ค.-มิ.ย.66 ค่า Ft จะปรับตัวลง แต่ก็ยังสามารถชดเชย Adder ที่ลดลงได้หมด และคาดว่าทั้งปี ค่า Ft โดยเฉลี่ยก็น่าจะสูงกว่าปีก่อน แต่ทั้งปีนี้บริษัทไม่มีแผนการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มแล้ว เนื่องด้วยโซลาร์ฟาร์ม 2 โครงการ, โซลาร์รูฟท็อป 1 โครงการ, โครงการลม และโครงการต่างๆ จะไป COD ในปี 67-68 ทั้งหมด
"ปี 65 จะเป็นปีที่ต่ำที่สุดของ TPIPP แล้ว เนื่องจาก Adder ที่หายไป ต้นทุนถ่านหินที่สูงขึ้น ประกอบกับการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าฯ โดยปี 66 จะเป็นปีที่เราฟื้นตัวขึ้น หรือเติบโตกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน จากเรามีความพร้อมเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้สูงขึ้น ซึ่งเราก็ตั้งเป้าว่าจะมีปริมาณการผลิตที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน และราคาถ่านหินลดลงมาต่ำกว่า 1,000 บาท/ตัน ทำให้เรามีกำไรจากการผลิตไฟฟ้าที่ขายให้โรงปูนซีเมนซ์เพิ่มขึ้น" นายภัคพล กล่าว
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบันได้ติดตั้งเครื่องวัดลม และวัดแสงแดดในบางพื้นที่แล้ว