นายตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมในการนำ 2 บริษัทในเครือเตรียมตัวเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนมารองรับในการขยายธุรกิจของทั้ง 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ดรัก แคร์ จำกัด ธุรกิจร้านขายยาภายใต้แบรนด์ "LAB PHARMACY" ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงหลังโควิด-19 ที่ยังสามารถเติบโตต่อเนื่องได้อย่างดี และเป็นแบรนด์ร้านขายยาที่ผู้พัฒนาโครงการศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆให้การยอมรับในการเลือกสรรให้เข้าไปเปิดในโครงการใหม่ของผู้พัฒนาศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ทั้งโครงการเดิมและโครงการใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ทำให้มีโอกาสในการขยายสาขาได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อที่สูง ซึ่งจะมีการเตรียมตัวในการเสนอขาย IPO และเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินคือ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
ส่วนอีกหนึ่งบริษัทในเครือที่เตรียมตัวเสนอขาย IPO และเข้าตลาดหลักทรัพย์เช่นเดียวกัน คือ บริษัท นครพัฒน์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลนครพัฒน์ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือโคราช ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งปัจจุบันมีการรีโนเวทโรงพยาบาลให้ทันสมัยมากขึ้น และมองว่าเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพสามารถขยายเครือข่ายโรงพยาบาลได้ ทำให้มีความต้องการในการระดมทุนเพื่อนำมาขยายโรงพยาบาลในอนาคต โดยที่มีที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/66 ที่ผ่านมาถือว่าสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ และยังเห็นทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2/66 โดยเฉพาะการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาและอาหารเสริมต่างๆที่มียอดขายที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทยังมีการเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่เป็นนวัตกรรมออกมา รวมถึงในไตรมาส 2/66 จะมีการเริ่มรับรู้รายได้จากการรับข้างผลิตอาหารเสริมให้กับอินโนบิก ในกลุ่มปตท. 2 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเข้ามาเสริมรายได้ให้กับบริษัท
ขณะเดียวกันยอดขายจากร้านขายยา LAB PHARMACY ยังมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหัวเมืองท่องเที่ยว และในศูนยืการค้าที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปี 66 บริษัทวางแผนขยายสาขาเพิ่มเป็น 35 สาขา จากสิ้นปีก่อนที่มี 21 สาขา และปัจจุบันขยายสาขาเพิ่มมาเป็น 26 สาขา ส่วนอีก 9 สาขา จะทยอยเปิดในช่วงที่เหลือของปีนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำเลในการเปิดจะอยู่ในศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา เป็นต้น ส่วนความร่วมมือกับบมจ.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ในการเปิดสาขาในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station อาจจะยังมีความล่าช้าในการขยายสาขา ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีการเปิดได้เพียง 1 สาขา ที่วิภาวดี 60 จากเป้าที่ตั้งไว้ 6 สาขา
ส่วนโรงพยาบาลนครพัฒน์ ยังคงมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการรักษาอย่างต่อเนื่อง และหลังจากการรีโนเวทโรงพยาบาลแล้วเสร็จ จะทำให้แนวโน้มของลูกค้าใช้บริการรักษาเพิ่มขึ้นได้อีก อย่างไรก็ตามในส่วนของความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจะรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับ 10% หลังจากที่ไตรมาส 1/66 ปรับขึ้นมาที่ 9% แล้ว