นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วีรันดา รีสอร์ท (VRANDA) เปิดเผยว่าในไตรมาส 3/66 บริษัทได้ดึงเทคโนโลยี Block chain มาใช้ในการซัพพอร์ตการขาย Voucher ของลูกค้าธุรกิจโรงแรมให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการปรับปรุงการขาย Voucher มาอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น จึงนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้เป็นจุดแข็งของบริษัท และส่งเสริมยอดขายของลูกค้าในประเทศและต่างประเทศได้ดีขึ้น โดยจะเริ่มเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในไตรมาส 3/66
การนำเอาเทคโนโลยี Block chain เข้ามาส่งเสริมการขาย Voucher เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งลูกค้าและโรงแรม ซึ่งลูกค้ามากกว่า 10% มีปัญหาลืมใช้งานจนหมดอายุ รวมทั้งต้องการขายต่อแต่ทำได้ยาก เทคโนโลยีจะช่วยให้โรงแรมสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น สามารถเสนอขายสินค้าและบริการพิเศษให้กับลูกค้าที่มี Voucher ได้
อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2/66 ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม บริษัทมีรายได้จากกิจการโรงแรมอยู่ที่ 179 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งเติบโตเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 มีรายได้ 302 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 101% YoY เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพฯไม่ได้ฟื้นตัวเร็วตามที่คาดการณ์ไว้ เทียบกับพื้นที่ภูเก็ตที่มีการฟื้นตัวเร็วที่สุดในประเทศไทย ซึ่งบริษัทยังไม่ได้เปิดให้บริการในพื้นที่ดังกล่าว โดยจะเร่งดำเนินการเปิดโรงแรมที่ภูเก็ตภายในไตรมาส 4/67 ในขณะที่การขยายห้องพัก 20 ห้องจากเดิมที่มีอยู่ 50 ห้องของโรงแรมในสมุย คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 1 ปีซึ่งจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวช่วง High Season ของปีหน้าได้
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับผลกระทบจากค่าไฟที่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างมากโดยเฉพาะเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน มีผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัท ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคมค่าไฟมีแนวโน้มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งรัฐบาลใหม่ที่มีนโยบายลดค่าไฟก็จะทำให้ค่าไฟปรับลดลงมา ผลกระทบจากค่าไฟของบริษัทจะลดลงตามด้วย
บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขา Skoop Beach Cafe ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งขอบริษัทและเป็นหนึ่งในจุดขายของบริษัท ที่ผ่านมามีการเจริญเติบโตเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสาขาที่หัวหินเป็นจุดที่ทำให้ลูกค้าเห็นโครงการ ส่งผลต่อยอดขายโครงการด้วย ในอนาคตเป็นไปได้ที่จะขยายสาขาใหม่ที่ชะอำ เพื่อดึงลูกค้าให้รู้จักโครงการของบริษัทในพื้นที่นั้น ผลักดันยอดขายของโครงการ