นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิวเดอสมาร์ท (BSM) จับมือ บริษัท แซง-โกแบ็ง ประเทศไทย เปิด Saint-Gobain Center ศูนย์แสดงสินค้าและบริการผลิตภัณฑ์และระบบงานการก่อสร้างครบวงจรทั้งภายนอกและภายในอาคาร ซึ่งสามารถสร้างบ้านได้ทั้งหลัง โดยได้นำเทคโนโลยีการก่อสร้างอาคารสำเร็จรูปคุณภาพสูง SM (Smart Modular) ของ BSM มาใช้ก่อสร้างเป็นโชว์รูม Saint-Gobain Center มีรูปแบบที่ทันสมัย สามารถก่อสร้างได้อย่างมีคุณภาพ ควบคุมงบประมาณ และระยะเวลาในการก่อสร้างได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ระบบอัจฉริยะ หรือ SM Automation & Security ช่วยให้สามารถควบคุม การเปิด ปิดระยะไกลของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เครื่องปรับอากาศ และ ระบบรักษาความปลอดภัย เช่นประตูเปิดปิดด้วยระบบดิจิตอล และ กล้องวงจรปิด ที่สามารถดูได้จากโทรศัพท์มือถือ รวมถึงสามารถตั้งเวลาเปิดปิดได้อีกด้วย
นางสาวศิวารยา ศรีติรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Saint-Gobain ผู้นำระดับโลกในการให้บริการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์พร้อมด้วยโซลูชันต่างๆ ที่สามารถตอบโจทย์อุตสาหกรรมการก่อสร้าง ภายใต้ตราสินค้า "ยิปรอค" และ "เวเบอร์" เปิดเผยว่า Saint-Gobain ร่วมมือกับ BSM เปิดตัวศูนย์บริการโซลูชันผลิตภัณฑ์และระบบงานก่อสร้างครบวงจรไม่ว่าจะเป็นระบบงานฝ้าเพดาน และระบบผนังยิปซัม ฉนวนกันความร้อน กระจกสำหรับที่อยู่อาศัย และอาคารพาณิชย์ กาวซีเมนต์ ยาแนว ผลิตภัณฑ์กันซึมและเคมีก่อสร้าง สำหรับงานก่อสร้าง และงานซ่อมแซม เป็นต้น ซึ่ง Saint-Gobain Center จะเข้ามามีบทบาทในการเป็นศูนย์บริการที่ให้คำปรึกษา และแนะนำผลิตภัณฑ์ รวมถึงระบบงานก่อสร้างที่ครบสมบูรณ์สำหรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง
Saint-Gobain Center จะตั้งอยู่ที่อาคารสำนักงานของ BSM บนถนนพระราม 3 ด้วยเทคโนโลยีการก่อสร้างอาคารกึ่งสำเร็จในรูปแบบโมดูลาร์คุณภาพสูงจาก SM Units ซึ่งเป็นนวัตกรรมของ BSM และจะใช้ผลิตภัณฑ์ของ Saint-Gobain ที่ใช้ในการสร้างบ้านทั้งระบบฝ้าเพดาน และระบบผนังกันไฟ โดยใช้แผ่น fire stop ระบบผนังแบบดัดโค้งได้ โดยใช้แผ่น Glasroc X ระบบผนังที่รับน้ำหนักได้พอ ๆ กับก่ออิฐฉาบปูน โดยใช้แผ่น habito เป็นการนำระบบผนังต่าง ๆ มาใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ ในขณะที่ส่วนของพื้นที่ภายนอกปูกระเบื้อง และยาแนวด้วยผลิตภัณฑ์เวเบอร์ และระบบกันซึมดาดฟ้า และหลังคา ซึ่งทั้งหมดเป็นการผสมผสานของผลิตภัณฑ์ภายใต้เครือ Saint-Gobain เกือบทั้งหมด
นายสัญชัย กล่าวว่า เดิมอาคารสำเร็จรูปแบบ Smart Modular ทำตลาดในกลุ่มผู้ที่ต้องการสร้างบ้านพักตากอากาศ หรือสร้างรีสอร์ทขนาดเล็ก แต่ขณะนี้บริษัทจะหันมาขยายตลาดที่นำไปใช้เพื่อการพาณิชย์ เช่น ตั้งสาขาย่อยของธนาคาร โชว์รูมแสดงสินค้า หรือสำนักงานขาย ศูนย์สุขภาพ หรือคลีนิกขนาดเล็ก รวมถึงบริการในรูปแบบอื่น ๆ ที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ อย่าง ร้านตัดผม เป็นต้น โดยชูจุดเด่นที่สามารถสร้างได้เร็ว มีความแข็งแกรงด้วยโครงสร้างอลูมิเนียม คุณภาพสูงทั้งการก่อสร้างและอุปกรณ์ส่วนประกอบ ในราคาราว 2.7 หมื่นบาท/ตารางเมตร รวมถึงเคลื่อนย้ายที่ตั้งได้สะดวก รับประกันโครงสร้าง 3 ปี
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปติดตั้งให้กับหน่วยงานด้านสุขภาพของสำนักงานเขตหนองเขม สำนักงานชายของโครงการทอสคานาเขาใหญ่ เป็นต้น บริษัทตั้งเป้าหมายปีแรกของการขยายตลาด Smart Modular จะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 600-800 ล้านบาท