นายธนากร มนูญผล รองกรรมการผู้อำนวยการหน่วยงาน Group Investment บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) คาดว่าปีนี้รายได้และกำไรจะเติบโต Double Digit หลังจากรายได้ของกลุ่มธุรกิจเพลงเข้าสู่สภาวะปกติมากขึ้นในไตรมาส 1/66 รวมทั้งภาครัฐได้ผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ ส่งผลดีต่อธุรกิจเพลง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท
แนวโน้มการเติบโตในไตรมาส 2/66 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนยังคงเติบโต แต่ถ้าเทียบเป็นรายไตรมาสรายได้ยังคงไซด์เวย์อัพ และคาดว่าจะมีรายได้มากสุดในไตรมาสที่ 4/66 เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจในบริษัท
"สำหรับภาพรวมธุรกิจใน 3 ปีข้างหน้า บริษัทมองเห็นการเติบโตอย่างมากในธุรกิจโชว์บิซ ธุรกิจผลิตคอนเทนต์ และธุรกิจบริหารศิลปิน ซึ่งธุรกิจดังกล่าวมีสัดส่วนรายได้กว่า 70% ของรายได้ในบริษัท เชื่อว่าในปีหน้าบริษัทยังมีโอกาสทำกำไรนิวไฮอีกครั้งหนึ่งเมื่อเทียบกับปี 62 ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีกำไรสุทธิ 342 ล้านบาท" นายธนากร กล่าว
ในไตรมาส 1/66 บริษัทมีรายได้รวม 1,402.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 395.5 ล้านบาท หรือ 39.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน YoY โดยรายได้ธุรกิจเพลงอยู่ที่ 878.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.4% YoY สัดส่วนรายได้จากการขายลิขสิทธิเพลง 40% เป็นรายได้ที่ต่อเนื่องและมั่นคง รวมทั้งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเปิดประเทศ ร้านอาหาร ผับ และบาร์กลับมาเปิดและมีการแสดงสดมากขึ้น สามารถกลับมาจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทางการตลาด ตลอดจนการจัดคอนเสิร์ตและมิวสิคเฟสติวัล โดยไตรมาส 1/66 บริษัทจัดงาน 4 งาน (5 รอบการแสดง) ส่งผลเชิงบวกทำให้ธุรกิจโชว์บิซ และธุรกิจบริหารศิลปินเติบโตถึง 180% YoY